การขายของใน TikTok ถือเป็นช่องทางการขายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การขายของใน TikTok จึงการกลายเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพทั้งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายย่อยและแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย นอกจากนี้ TikTok ยังเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายสามารถรับชมคอนเทนต์สนุกๆ ที่พวกเขาสนใจและสามารถช้อปออนไลน์ไปพร้อมกันได้ จึงทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูง ดังนั้นถ้าคุณยังไม่เริ่มขายของใน TikTok ล่ะก็ บอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ควรพิจารณา แต่จะขายของใน TikTok ยังไงให้ขายดี ยอดปัง ร้านออนไลน์โต? ในบทความนี้มีคำตอบที่คุณพลาดไม่ได้!
ทำไมถึงควรขายของใน TikTok?
รู้หรือไม่ว่าจากสถิติข้อมูลผู้ใช้งาน TikTok เมื่อเดือนมกราคมปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก และประเทศไทยของเราก็ติดอันดับ 9 ของประเทศที่มีผู้ใช้ TikTok มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้งานสูงถึง 44.38 ล้านบัญชี บวกกับความสามารถในการสร้างเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น วิดีโอสั้นๆ การถ่ายทอดสด และการใช้เพลงหรือเสียงเอฟเฟกต์ ทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับการโปรโมทสินค้าและบริการ มากไปกว่านั้น TikTok ยังมีการปรับปรุงระบบอัลกอริทึมที่สามารถแนะนำเนื้อหาตามความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามแพลตฟอร์มนี้
10 เคล็ดลับเริ่มต้นขายของใน TikTok ให้ขายดีที่มือใหม่ทำตามได้ง่ายๆ
หากคิดจะบุกวงการขายของออนไลน์แล้ว บอกเลยว่า TikTok คือแพลตฟอร์มสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เช่นคุณสามารถสร้างตัวตน เพิ่มการมองเห็นของร้านค้า สินค้า และบริการ ตลอดถึงเพิ่มยอดขายออนไลน์แบบเห็นได้ชัด และหากคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขายของใน TikTok ละก็ นี่คือเคล็ดลับที่ห้ามพลาด
1. สร้างโปรไฟล์ที่น่าสนใจ
เริ่มต้นขายของใน TikTok ด้วยการมีโปรไฟล์ที่น่าสนใจ เพราะโปรไฟล์เป็นสิ่งสำคัญที่จะดึงดูดผู้ติดตามและลูกค้าได้ ลองศึกษาดูว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณสนใจอะไรแล้วก็ปรับแต่งโปรไฟล์ให้ตรงกับความสนใจเหล่านั้นได้เลย
- ภาพโปรไฟล์: ใช้ภาพที่ดูดีและเป็นมืออาชีพ เช่น โลโก้ของแบรนด์หรือภาพสินค้าที่สวยงามคมชัดเท่านั้น
- คำอธิบายโปรไฟล์ (Bio): เขียนคำอธิบายที่สั้นกระชับและน่าสนใจ รวมถึงใส่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ เพื่อมอบทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์และเลือกชมเลือกช้อปสินค้าสำหรับลูกค้าและผู้ติดตาม
2. สร้างเนื้อหาที่น่าดึงดูด
เนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่น่าสนใจเป็นกุญแจสำคัญที่จะดึงดูดผู้ชม ผู้ติดตาม กลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มยอดขายได้ โดยหลักๆ แล้วการสร้างเนื้อหาให้น่าดึงดูดและสนุกสนานสามารถทำได้ดังนี้:-
- วิดีโอสั้น: สร้างวิดีโอที่มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที ใช้เพลงที่กำลังเป็นที่นิยมและเทคนิคการตัดต่อคลิป TikTok ที่น่าสนใจ ซึ่งบนในเว็บหรือแอพ TikTok เองก็มีแฮชแท็ก #สอนตัดต่อวิดีโอ และแฮชแท็กอื่นๆ ให้ทำคอนเทนต์วิดีโอสั้นได้ง่ายๆ โดยเครื่องมือการตัดต่อคลิปก็มีมาให้ฟรีในแอพ หรือจะเลือกใช้ CapCut และแอพตัดต่อวิดีโออื่นๆ ที่คุณถนัดก็ได้เช่นกัน
- ไลฟ์ หรือ การถ่ายทอดสด: ไลฟ์ เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นและให้ผู้ชมได้เห็นสินค้าในมุมมองที่หลากหลาย แถมยังเห็นตัวตนของพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงบุคลิกภาพ ถือเป็นวิธีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี
- ใส่ความคิดสร้างสรรค์: ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอสินค้า เช่น การทำรีวิวสินค้า, การใช้สินค้าจริงในสถานการณ์ต่าง ๆ หรือการใช้ลูกเล่นต่าง ๆ ในการตัดต่อ หรือแม้กระทั่งขณะไลฟ์ขายสินค้าและพูดคุยกับลูกค้าเอง คุณก็จำเป็นต้องมีลูกเล่นในการขายเพื่อให้ลูกค้าดูแล้วสนุก ไม่เบื่อและพร้อมกดตะกร้าซื้อทันที
3. ใช้แฮชแท็ก
แฮชแท็กเป็นวิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพในการเพิ่มการมองเห็นเนื้อหาหรือคอนเทนต์ของคุณ เมื่อใช้แฮชแท็ก ร้านคุณจะเป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายในวงที่กว้างขึ้น ไม่จำกัดแค่ผู้ติดตามเท่านั้น ซึ่งหลักการในการใช้แฮชแท็กเมื่อขายของใน TikTok ก็คือ
- เลือกแฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง: ใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น ถ้าร้านขายเครื่องสำอาง ก็อาจจะใช้แฮชแท็กเป็น #ลิปสติก #รองพื้น หรือ #เครื่องสำอางกันน้ำ เป็นต้น
- ติดตามเทรนด์: ติดตามเทรนด์และใช้แฮชแท็กที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อเพิ่มการมองเห็นและช่วยให้การขายของใน TikTok ของคุณง่ายขึ้น
4. ทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer)
การทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) สามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ เพราะการขายของใน TikTok ก็เหมือนกับการขายสินค้าในช่องทางโซเชียลมีเดียต้องใช้คนมีชื่อเสียงทำการตลาด เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งหลักการในข้อนี้ก็คือ
- เลือก Influencer ที่ตรงกับแบรนด์: เลือก Influencer ที่มีผู้ติดตามในกลุ่มเป้าหมายของคุณและมีความน่าเชื่อถือ อาจจะเริ่มจาก Nano-Influencer ที่มียอดผู้ติดตามประมาณ 1,000 – 10,000 คนก่อน หากมีงบก็ค่อยขยายไป Micro-Influencer และอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มอื่นๆ ที่มีฐานผู้ติดตามมากขึ้น
- การทำรีวิวสินค้า: ให้ Influencer ทำรีวิวสินค้าของคุณและแชร์ประสบการณ์การใช้งาน
5. ใช้ TikTok Ads
TikTok Ads คือการโปรโมทสินค้าใน TikTok ผ่านการทำโฆษณาหรือที่เราเรียกกันว่ายิงแอด ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการมองเห็นและยอดขายเช่นกัน แต่ก็ต้องมีงบประมาณใช้การใช้ยิงแอด ซึ่งหลักๆ แล้วคุณสามารถยิงแอด TikTok ได้ตามช่องทางเหล่านี้
- In-Feed Ads: วิดีโอโฆษณาที่ปรากฏในฟีดของผู้ใช้
- Brand Takeover Ads: โฆษณาที่ปรากฏเมื่อผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชัน
- TopView Ads: โฆษณาที่ปรากฏเป็นวิดีโอแรกในฟีดของผู้ใช้
6. สร้างแคมเปญหรือชาเลนจ์ (Challenge)
การสร้างแคมเปญที่น่าสนใจและมีความเป็นเอกลักษณ์ก็สามารถเพิ่มผู้ติดตามและดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การขายของใน TikTok ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
- สร้างชาเลนจ์ (Challenge): สร้างชาเลนจ์ที่สนุกสนานและเชิญชวนให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม
- ใช้เนื้อหา User-Generated: การใช้ User-Generated Content คือการเชิญชวนให้ผู้ใช้งาน ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าของคุณและแชร์ในแฮชแท็กที่กำหนด
7. จัดโปรโมชั่น
แน่นอนว่านอกจากโปรไฟล์และคอนเทนต์ที่น่าสนใจแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้ยอดขายออนไลน์พุ่งก็คือ การจัดโปรโมชั่น เพราะการขายของใน TikTok ก็ต้องมีข้อเสนอดีๆ ถึงจะเรียกลูกค้าให้มาช้อปได้ ซึ่งไอเดียการจัดโปรโมชั่นแบบคร่าวๆ ก็ได้แก่
- โปรโมชั่น 1 แถม 1
- โปรลด 50%
- โปรส่งฟรี
- โปรลดต้อนรับหรือส้งท้ายเทศกาล
- ฯลฯ
8. วิเคราะห์ผลลัพธ์
ทำคอนเทนต์ขายของไปเยอะแล้วก็ต้องวิเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อจะได้รู้ข้อมูลเชิงลึกและนำไปปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์การขายของใน TikTok โดยจะต้องวิเคราะห์ผลลัพธ์หลักๆ ดังนี้:
- ผลลัพธ์การติดตามยอดวิว: ดูว่าวิดีโอของคุณมีผู้ชมมากน้อยเพียงใด
- ผลลัพธ์การติดตามยอดขาย: ดูว่ายอดขายของคุณเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใดหลังจากการโพสต์คอนเทนต์และโปรโมทสินค้าไป
- ผลลัพธ์การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ชม: ศึกษาข้อมูลผู้ชมเพื่อปรับปรุงเนื้อหาหรือคอนเทนต์และปรับกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องควบคู่กันไป
9. มีความสม่ำเสมอ
เคล็ดลับสำหรับการขายของใน TikTok อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ การโพสต์เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ เพราะสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้ติดตามของคุณได้ โดยคุณสามารถทำได้ 2 วิธีหลักๆ คือ
- กำหนดตารางเวลา: กำหนดตารางเวลาในการโพสต์เนื้อหาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น โพสต์ทุกวัน ทุกๆ 2 วัน หรือ ทุก 3 วัน เป็นต้น
- อัปเดตเนื้อหา: อัปเดตเนื้อหาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ติดตามใน TikTok ไม่เบื่อ และตื่นเต้นที่จะรอติดตามคอนเทนต์ใหม่ๆ ของคุณ
10. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตาม
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามหรือผู้ชม จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับร้านและนำมาซึ่งยอดขายออนไลน์ที่คุณหวังไว้ได้ เพราะเมื่อคุณสร้างความเชื่อมั่นได้แล้ว ลูกค้าก็จะมั่นใจและมีแนวโน้มที่จะอยากซื้อสินค้าจากร้านคุณมากยิ่งขึ้น โดยทำได้ง่ายๆ คือ
- ตอบกลับคอมเมนต์: ตอบกลับคอมเมนต์ของผู้ชมอย่างรวดเร็วและเป็นกันเอง ใช้ภาษาที่สุภาพ ไม่ก้าวร้าว
- ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง: ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือเกี่ยวกับสินค้า ไม่บิดเบือนความจริง ไม่โฆษณาเกินจริง
หวังว่าเคล็ดลับการขายของใน TikTok ทั้ง 10 ข้อนี้จะช่วยให้ทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่เพิ่มยอดขายได้แบบปังๆ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากพร้อมลุยช่องทางนี้แล้วก็สมัคร TikTok แล้วเริ่มขายกันได้เลย! หรือหากมีโปรไฟล์อยู่แล้วและนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ก็อย่าลืมแวะมาอัปเดตกันบ้างนะคะ
และถ้าเริ่มลุยขายของใน TikTok แล้วต้องการจัดการแชทได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นก็สามารถทดลองใช้งาน Zaapi ได้ฟรี พราะ Zaapi คือแพลตฟอร์มเดียวในไทยที่รวมแชททุกช่องทางการขายบน Social Media และ E-Commerce อย่างเฟสบุ๊ค, ไอจี, LINE, TikTok Shop, Lazada และ Shopee มาไว้ในที่เดียว
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน คลิกเลย
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง
· LINE OA: @zaapi
· Facebook Page: Zaapi Thailand
· Tel: 096-927-1729
Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub