หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด 4P แต่ก็ยังไม่ได้ศึกษาแบบจริงจัง บอกเลยว่าปี 2022 นี้ช้าไม่ได้แล้ว! ถ้าคุณอยากขายดีตลอดปีและทำกำไรให้ร้าน บอกเลยว่ากลยุทธ์นี้สำคัญมาก
และเพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่เช่นคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับกลยุทธ์การตลาด 4P แบบจัดเต็ม!
เปิดร้านขายของออนไลน์ที่ Zaapi ก่อนเริ่มทำการตลาด คลิก
กลยุทธ์การตลาด 4P คืออะไร?
กลยุทธ์การตลาด 4P หรือ 4P Marketing คือปัจจัยสำคัญในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของร้าน โดย 4P ที่ว่านี้ได้แก่
- Product หมายถึง สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ขาย หรือการบริการต่าง ๆ เช่น การให้คำปรึกษาและการเทรนนิ่ง สอนออกกำลังกาย เป็นต้น
- Price หมายถึง ราคา เป็นการตั้งราคาสินค้าว่าต้องการขายเท่าไหร่และราคาที่ว่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ลูกค้ามองร้านหรือแบรนด์อย่างไร
- Place หมายถึง ช่องทางการจัดจำหน่าย ดูว่าต้องการโปรโมทสินค้าหรือบริการที่ไหน ลูกค้าจะรู้จักร้านหรือว่าหาข้อมูลร้านจากที่ไหน
- Promotion หมายถึง การส่งเสริมการขาย ลูกค้าจะรู้จักร้านหรือแบรนด์ได้อย่างไร ใช้เทคนิคไหนในการโปรโมทและเทคนิคที่ว่านี้ได้ผลมากน้อยเพียงใด
เราเรียก 4P Marketing อีกอย่างหนึ่งว่า Marketing Mix เพราะเป็นการวางแผนการตลาดที่เกิดจากการวิเคราะห์ทั้ง 4 ส่วนข้างต้น เมื่อวิเคราะห์และวางแผนไปในทิศทางเดียวกันได้แล้ว ธุรกิจร้านค้าก็จะเข้าใจความต้องการของลูกค้าและทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แล้วก็ช่วยเพิ่มยอดขายได้ในที่สุด
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด คลิก
ข้อดีของกลยุทธ์การตลาด 4P
เป้าหมายหลักของ 4P Marketing ก็คือ การทำให้ร้านหรือแบรนด์เป็นที่จดจำในหมู่ลูกค้า โดยร้านจะต้องวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการอย่างไร ชอบสินค้าแบบไหน มีปัญหาอะไรบ้าง และทางร้านสามารถช่วยลูกค้าแก้ปัญหาได้อย่างไร เมื่อมีข้อมูลแล้วทางร้านก็จะทำแผนการตลาดได้สอดคล้องกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
เราสามารถใช้ 4P Marketing ได้ทั้งในกรณีที่ยังไม่มีสินค้าและมีสินค้า คือ
- กรณีที่ยังไม่มีสินค้า สามารถใช้ 4P Marketing สร้างสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นได้เลย แต่ก็ต้องมีตัวแปรอื่น ๆ เข้ามาช่วยด้วย เช่น ความชอบของลูกค้า ปัญหาของลูกค้า และความต้องการของลูกค้า เป็นต้น
- กรณีที่มีสินค้าอยู่แล้ว สามารถใช้ 4P Marketing เพื่อต่อยอดสินค้าให้ตรงใจลูกค้าและกลยุทธ์ของร้านหรือแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น
เจาะลึกเทคนิคสำคัญในการทำการตลาด 4P
ทำความรู้จัก 4P กันไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่าการจะทำการตลาด 4P แต่ละอันให้ดีและมีประสิทธิภาพได้นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง
- Product สินค้าหรือผลิตภัณฑ์
หลัก ๆ แล้วการวิเคราะห์การตลาดในส่วนของ Product ก็คือการผลิตสินค้าหรือบริการที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ ซึ่งถ้าจะให้ดีควรจะเป็นสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่ง หรือไม่อย่างนั้นก็จะต้องช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้ ร้านจะได้มีจุดขายและดึงดูกลูกค้าได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ในการวิเคราะห์สินค้าของร้าน จะต้องคำนึงถึงวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์และวงจรชีวิตลูกค้าด้วย เช่น ดูว่าสินค้าที่ขายมีอายุสั้นหรือยาวและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่กับเรานานแค่ไหน เป็นต้น
สำหรับเทคนิคในการทำการตลาดของตัวสินค้าแล้ว เรารวบรวมมาให้สั้น ๆ ดังนี้ :-
- สินค้าหรือบริการต้องถูกใจและเป็นที่พึงพอใจของลูกค้า
- มีความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขายให้กับร้าน
- ช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้
- ออกแบบมาเพื่อลูกค้าแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ
- คุ้มค่าและสะดวกสบายต่อการใช้งาน
- คุณภาพสินค้าดี มีการรับประกัน
- แพ็คเกจจิ้งสวยงามทันสมัย
- ผลิตจากเทคโนโลยีทันสมัยและปลอดภัยต่อการใช้งาน
- Price ราคา
ถ้าจะพูดจริง ๆ ก็คือ การตั้งราคาสินค้าคือตัววัดความสำเร็จของร้าน เพราะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับรายได้ของร้านมากที่สุด ทุกร้านจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การตลาดสำหรับตั้งราคาให้ดี
ถ้าตั้งราคาถูกเกินไป ร้านก็จะไม่มีกำไร ทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำร้าน แต่ถ้าตั้งราคาสูงเกินไป ลูกค้าก็อาจจะไม่มีกำลังซื้อเพียงพอ ทำให้ขายสินค้าไม่ออกได้ ดังนั้นกลยุทธ์การตลาด 4P ของ Price จึงควรพิจารณาสิ่งนี้ควบคู่กันไปด้วย และเทคนิคที่ช่วยในเรื่องของการตั้งราคาก็มีหลายอย่างด้วยกัน เช่น
- ตั้งราคาให้ถูกไว้ก่อน เราเรียกเทคนิคนี้ว่า Loss Leader Pricing เป็นการตั้งราคาให้ถูกเพื่อกันคู่แข่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในตลาด
- ตั้งราคาสูงในช่วงแรก หรือ Skimming Pricing เป็นการตั้งราคาสูงในช่วงแรกที่กำลังตีตลาด จากนั้นก็ค่อยลดราคาสินค้าในภายหลัง
- ตั้งราคาเจาะตลาด เทคนิคนี้คือ Penetration Pricing เป็นการตั้งราคาสินค้าราคาถูกเพื่อตีตลาด ส่วนใหญ่ใช้กันในตลาดที่มีคู่แข่งเยอะ
- ตั้งราคาทางจิตวิทยา เรียกว่า Psychological Pricing ตั้งราคาให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคาถูก โดยตั้งราคาสินค้าให้ลงท้ายด้วยเลข 9 หรือเลข 5
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งราคาสินค้า คลิก
- Place ช่องทางการจัดจำหน่าย
Place คือช่องทางการจัดจำหน่ายหรือขายสินค้า เป็นการจำหน่ายสินค้าตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งช่องทางการขายปัจจุบันถือว่ามีหลากหลายมากและไม่ได้จำกัดอยู่ที่หน้าร้านเพียงอย่างเดียว โดยมีทั้งมาร์เก็ตเพลส, เพจเฟสบุ๊ค, กลุ่มเฟสบุ๊ค, ไอจี, เว็บขายออนไลน์ ฯลฯ
ทั้งนี้สำหรับเทคนิคสำหรับการทำการตลาดในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายก็คือ
- เปิดช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าและอำนวยความสะดวกสบาย เช่น ขายของออนไลน์ โดยเปิดเว็บขายออนไลน์ฟรีได้ง่าย ๆ กับ Zaapi เมื่อมีช่องทางการขายที่มากขึ้น โอกาสในการขายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งยอดขายอาจจะพุ่งจนน่าตกใจเลยก็เป็นได้ แต่แน่นอนว่าการขยายช่องทางการขายก็ต้องพยายามเพิ่มด้วย
- มีระบบการสื่อสารที่ดี อย่าลืมว่าหัวใจของการทำธุรกิจคือการเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้า ที่สำคัญเลยร้านต้องมีระบบการสื่อสารที่ดีปละมีประสิทธิภาพเพื่ออัพเดตลูกค้าในเรื่องต่าง ๆ
- Promotion การส่งเสริมการขาย
การส่งเสริมการขายหรือ Promotion เป็นการโปรโมทสินค้าผ่านการประชาสัมพันธ์ การจัดนิทรรศการ การสาธิตสินค้า ฯลฯ โดยกลยุทธ์ที่ใช้ในการส่งเสริมการขายที่เป็นที่นิยมและได้ผลก็คือ
- การจัดโปรโมชั่นหรือสร้างข้อเสนอพิเศษ
- การอ้างอิงหรือรับรองจากอินฟลูเอนเซอร์
- การทำโฆษณาหรือยิงแอด
- การให้ทดลองใช้สินค้าฟรี
- การทำแคมเปญแข่งขันชิงรางวัล
- การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือ Partnership
นอกจากนี้การทำการส่งเสริมการขายจะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ มีการนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น การเข้าหาลูกค้าและทำให้ลูกค้าเข้าหา รวมไปถึงการทำโปรโมชั่นที่เหมาะสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มด้วย
เปิดร้านขายของออนไลน์ที่ Zaapi ก่อนเริ่มทำการตลาด คลิก
สิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมจาก 4P Marketing
นอกเหนือจาก 4P Marketing แล้ว ทางร้านและแบรนด์ควรจะต้องให้ความสำคัญกับการบริการและด้านอื่น ๆ ในการทำร้านด้วย จึงจะสามารถมัดใจลูกค้าและสร้างยอดขายให้ทะลุเป้าได้ เช่น
- พนักงาน พนักงานควรมีใจรักในการบริการและให้ข้อมูลลูกค้าได้เมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ ควรสังเกตลูกค้าให้เป็นและสื่อสารเป็นอย่างมืออาชีพ
- หน้าร้าน บรรยากาศร้าน แผนผังร้าน และการออกแบบต่าง ๆ ต้องมีความสอดคล้องกันและสะท้อนถึงตัวตนแบรนด์ เพราะสิ่งนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้านเป็นอย่างมาก
- กระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ มีมาตรการในการดำเนินการอย่างชัดเจน เช่น มาตรการการจัดส่งสินค้า การคืนสินค้า และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจตรงกันและมั่นใจในการใช้บริการหรือซื้อสินค้ากับทางร้านมากขึ้น
สรุป
และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของกลยุทธ์การตลาด 4P เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์และวางแผนจากตัวสินค้า (Product) ราคา (Price) ช่องทางการขาย (Place) และการส่งเสริมการขาย (Promotion) ได้ดียิ่งขึ้น และถ้ายิ่งตีโจทย์ของแต่ละข้อได้แตกแล้ว รับรองว่ายอดขายร้านในปี 2022 นี้ทะเลุเป้าแน่นอน ยังไงลองนำไปใช้ดูแล้วมาแชร์กับเราได้นะคะ หรือถ้ามีข้อแนะนำเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง
- LINE OA: @zaapi
- Facebook Page: Zaapi Thailand
- Tel: 096-927-1729
Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub