ระบบขายของออนไลน์ คืออะไร? คู่มือเลือกตัวช่วยสำคัญของธุรกิจยุคดิจิทัล

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก ระบบขายของออนไลน์จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการก้าวเข้าสู่วงการตลาดขายของออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้จักหรือคุ้นเคยกับระบบขายของออนไลน์ อาจสงสัยว่าระบบนี้คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร ในบทความนี้เราจะอธิบายถึงระบบขายของออนไลน์ พร้อมทั้งแนะนำวิธีเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มเลย!

‍

ระบบขายของออนไลน์คืออะไร?

ระบบขายของออนไลน์ (E-commerce System) หรือ ระบบขายสินค้าออนไลน์ คือ แพลตฟอร์ม หรือ ซอฟต์แวร์ ที่ช่วยในการจัดการร้าค้าหรือธุรกิจออนไลน์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์ขายของ การจัดการสินค้าคงคลังหรือสต๊อกสินค้า การทำธุรกรรมออนไลน์ และการส่งเสริมการขาย

ระบบขายขอองออนไลน์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถขายสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การมีระบบขายของออนไลน์สามารถทำให้การจัดการทุกด้านของการขายสินค้ามีความรวดเร็วและเป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังนั้นทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่และมืออาชีพแล้ว ต่างจึงพากันหาตัวช่วยนี้มาขับเคลื่อนให้การขายออนไลน์มีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น

‍

ประโยชน์ของระบบขายของออนไลน์

ถ้าจะ พูดถึงข้อดีของระบบขายของออนไลน์หรือว่าระบบขายสินค้าออนไลน์แล้วล่ะก็ ต้องบอกว่ามีหลายข้อดีที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องรีบพิจารณากันเลยทีเดียว ซึ่งก็คือ

‍

1. เพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อขาย

ระบบขายของออนไลน์ช่วยให้ผู้ขายสามารถรับคำสั่งซื้อและรับชำระเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิต โอนเงิน หรือวิธีการอื่นๆ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ

‍

2. ช่วยให้จัดการสินค้าได้ง่ายขึ้น

ระบบขายของออนไลน์มักมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยในการจัดการสินค้าคงคลังและสต๊อกสินค้า โดยคุณสามารถติดตามจำนวนสินค้าที่เหลือ คำสั่งซื้อใหม่ และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ขายดีได้ โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสินค้าพร้อมขายอยู่ตลอดเวลา

‍

3. สร้างเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว

ระบบขายของออนไลน์บางระบบมีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ขายของได้เองโดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคมากนัก ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์อย่างรวดเร็วและไม่มีประสบการมาก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บไซต์ที่มาพร้อมเทมเพลต ที่เรียกกันว่า เว็บไซต์สำเร็จรูป ให้คุณสร้างเว็บขายสินค้าออนไลน์ได้ง่ายเพียงไม่กี่คลิก

‍

4. บริหารจัดการแชทลูกค้าได้ง่าย

ระบบขายของออนไลน์บางระบบได้รับการพัฒนามาเพื่อรองรับการขายผ่านช่องทางแชทโดยเฉพาะ เพราะต้องยอมรับว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่มักจะมีคำถามเกี่ยวกับสินค้าและบริการ และมักจะต้องการข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า โดย Zaapi ก็มีระบบรวมแชทจากทุกช่องทางการขายบน Social Media และอีคอมเมิร์ซ ให้คุณจัดการแชทและปิดการขายได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีแชทบอท AI, บรอดแคสต์ผ่านแชท LINE OA,  บรอดแคสต์ AI อัจฉริยะ และฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถขายออนไลน์ในแชทได้ทันที

‍

5. รองรับการเติบโตของธุรกิจ

หากธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น ระบบขายของออนไลน์สามารถปรับขนาดเพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและช่วยในการจัดการคำสั่งซื้อที่มากขึ้นได้โดยไม่ทำให้ระบบล่าช้า ดังนั้นการเลือกระบบที่ตอบโจทย์การใช้งานและรองรับการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ของคุณจึงเป็นเรื่องสำคัญ

‍

6. การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ

ระบบขายของออนไลน์มักมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย เช่น รายงานยอดขาย พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า หรือการเข้าถึงสินค้า ทำให้ผู้ขายสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

‍

ประเภทของระบบขายของออนไลน์

รู้ข้อดีของระบบขายของออนไลน์กันไปแล้ว ในส่วนนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับระบบขายของออนไลน์ โดยระบบที่ว่านี้มีหลายประเภทให้เลือก โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้:-

‍

1. แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบสำเร็จรูป (Hosted E-commerce Platforms)

แพลตฟอร์มนี้จะมีระบบทุกอย่างเตรียมไว้ให้พร้อมใช้งาน เช่น Shopify หรือ Wix ซึ่งคุณสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าหรือพัฒนาซอฟต์แวร์เอง ข้อดีของแพลตฟอร์มเหล่านี้คือ ความสะดวกและรวดเร็วในการเริ่มต้นใช้งาน เป็นแพลตฟอร์มที่มีเว็บสำเร็จรูปให้เลือกสร้างหน้าร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายๆ

‍

2. ระบบขายของออนไลน์แบบปรับแต่งได้ (Open-source E-commerce Platforms)

ระบบนี้เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และปรับแต่งระบบได้ตามความต้องการ เช่น WooCommerce, Magento หรือ OpenCart ระบบประเภทนี้เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีทีมพัฒนาหรือมีความรู้ด้านเทคนิค เพราะสามารถปรับแต่งระบบให้เหมาะกับธุรกิจออนไลน์ได้อย่างเต็มที่

‍

3. อีคอมเมิร์ซ (E-commerce Platforms)

หากคุณไม่ต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Lazada, Shopee หรือ eBay ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้ขายออนไลน์ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดที่มีลูกค้าพร้อมอยู่แล้ว แถมแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังมีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถเลือกขายได้ทั้งในเว็บและแอป ข้อดีคือคุณไม่จำเป็นต้องโปรโมทเว็บไซต์ของตัวเอง แต่ข้อเสียคือจะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมการขายให้กับแพลตฟอร์มเหล่านั้นเมื่อขายสินค้าได้ โดยค่าธรรมเนียม Lazada กับ Shopee และค่าธรรมเนียมในการขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอื่นๆ จะแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มนั้นๆ

‍

วิธีการเลือกระบบขายของออนไลน์ที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณ

การเลือกระบบขายของออนไลน์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และนี่คือเคล็ดลับในการเลือกระบบให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การขายออนไลน์ของคุณมากที่สุด

‍

1. เพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อขาย

หากคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก ระบบขายของออนไลน์แบบสำเร็จรูปหรืออีคอมเมิร์ซอาจเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ต้องการลงทุนมากนัก แต่หากธุรกิจออนไลน์ของคุณมีขนาดใหญ่และต้องการระบบที่ปรับแต่งได้ คุณอาจพิจารณาใช้ระบบขายสินค้าออนไลน์ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ระบบที่เลือกปรับแต่งสี เพิ่มสินค้า วิดีโอ และสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตามแบรนด์ของคุณ เป็นต้น

‍

2. สะดวกในการใช้งาน

เลือกระบบขายของออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ด้านเทคนิคหรือไม่มีก็ตาม เพราะระบบที่ซับซ้อนเกินไปอาจทำให้คุณเสียเวลาในการเรียนรู้และปรับใช้งาน หรือบางทีก็อาจะใช้เวลาในการเทรนพนักงานนานเกินจำเป็น ดังนั้นการเลือกระบบที่สะดวกสบายและใช้งานง่าย จะช่วยคุณประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในส่วนนี้ลง

‍

3. มีฟีเจอร์ที่รองรับการตลาด (Marketing)

เลือกระบบขายออนไลน์ที่มีฟีเจอร์รองรับการการทำการตลาด (Marketing) เช่น การเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย, รองรับและรวมแชทจากแพลตฟอร์มที่ขาย, มีระบบการทำ CRM, สร้างโปรโมชั่น, การวิเคราะห์ข้อมูล, หรือการรองรับ SEO เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าและโปรโมทสินค้าในช่องทางต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

‍

4. การสนับสนุนและการอัปเดต

ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ระบบขายของออนไลน์ ต้องเช็คให้แน่ใจว่าระบบที่คุณเลือกมีการสนับสนุนลูกค้าหรือลูกค้าสัมพันธ์ที่ดี และมีการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าระบบจะทำงานได้อย่างราบรื่นและทันสมัยอยู่เสมอ คุณจะได้ขายออนไลน์อย่างคล่องตัว ไร้อุปสรรค และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

‍

สรุป

ระบบขายของออนไลน์เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นธุรกิจหรือกำลังมองหาแนวทางในการขยายธุรกิจ ระบบที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและเสริมการทำการตลาดให้แกร่งขึ้นได้ ทั้งยังช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถแข่งขันได้ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ดังนั้นก่อนเลือกระบบขายของออนไลน์ ต้องเลือกระบบที่ดีและตอบโจทย์การขายของคุณมากที่สุด

ทั้งนี้หากคุณขายออนไลน์ทั้งในช่องทาง Social Media และอีคอมเมิร์ซ และให้ความสำคัญกับแชท Zaapi คือตัวช่วยรวมแชทจากทุกช่องทางการขายให้คุณสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าและปิดการขายได้เร็วขึ้น ทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำอย่างแชทบอท AI, AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ, แดชบอร์ด, บรอดแคสต์ และอีกมากมายที่พร้อมช่วยให้คุณขายออนไลน์ได้ง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้น

‍

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

‍

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์

สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง

• LINE OA: @zaapi
• Facebook Page: Zaapi Thailand
• Tel: 096-927-1729

‍

Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub