ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์และอีคอมเมิร์ซมาแรงเช่นนี้ ระบบ CRM (Customer Relationship Management Software) คือตัวช่วยหลักที่จะทำให้ ร้านค้าออนไลน์ของคุณเป็นที่น่าจดจำในหมู่ของลูกค้า ยิ่งเมื่อร้านของคุณเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กแล้ว ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณยิ่งจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการซื้อขายในกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและเปลี่ยน ลูกค้าหน้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นคุณจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงพฤติกรรมและความชอบส่วนตัวของลูกค้า เพื่อสร้างกลยุทธ์การขายที่ตอบโจทย์และตรงใจในกลุ่มลูกค้ามากที่สุด และระบบ CRM นี่แหละคือเครื่องมือสำคัญของธุรกิจและร้านค้าออนไลน์ในยุคนี้ และหากคุณยังไม่รู้ว่าระบบ CRM อันไหนดี ในบทความนี้เรามี 7 ระบบ CRM ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจออนไลน์และอีคอมเมิร์ซมาแนะนำ
1. Salesforce
เลือกระบบ CRM หรือโปรแกรม CRM ทั้งทีก็ต้องเลือกอันที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจใช่ไหม? ซึ่งบอกเลยว่า Salesforce เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนค้าขายออนไลน์มักจะพิจารณา เพราะ Salesforce เป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างเสถียรและรองรับหลายฟังก์ชั่น ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์ง่ายขึ้น เช่น ข้อมูลการขาย, การตลาดแบบอัตโนมัติ, การจัดการพาร์ทเนอร์ และการบริการลูกค้า ตัวระบบทำงานบนคลาวด์ ไม่จำเป็นต้องซื้อฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์เพิ่มเติม หากแต่ต้องซื้อตัวระบบออนไลน์ และการเป็นระบบ CRM ที่ทำงานบนคลาวด์ของระบบ CRM Salesforce นี่เอง ที่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของร้านออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทุกเวลา
นอกจากนี้โปรแกรม CRM ของ Salesforce ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของธุรกิจ ทำให้คุณสามารถปรับระบบให้เข้ากับร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณได้อย่างสบายๆ และแน่นอนว่าตัวระบบยังสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ทำให้คุณสามารถรวมขั้นตอนการทำธุรกิจออนไลน์ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว โดยราคาของ Salesforce เริ่มต้นที่ $25 ต่อเดือน ต่อหนึ่งผู้ใช้งาน หรือราว ๆ 900 บาทต่อเดือนต่อหนึ่งผู้ใช้งาน
2. Zaapi
ถ้าจะพูดถึงระบบ CRM ที่สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นหรือว่ามีฟีเจอร์หลากหลายที่สนับสนุนการขายออนไลน์ล่ะก็ ฟีเจอร์ CRM ของ Zaapi ก็ถือว่าตอบโจทย์การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ CRM และช่วยต่อยอดกลยุทธ์การขายของธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้เป็นอย่างดี โดยฟีเจอร์ CRM ของ Zaapi สามารถช่วยจัดเก็บข้อมูลสำคัญของลูกค้าได้ทั้งชื่อ, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่ และประวัติการสั่งซื้อสินค้า ช่วยให้ร้านสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดและกลยุทธ์การขายของร้านได้อย่างตรงจุด
ฟีเจอร์ CRM ไม่ได้เป็นเพียงฟีเจอร์เดียวของ Zaapi ที่ช่วยซัพพอร์ตการทำธุรกิจออนไลน์ แต่ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ช่วยรองรับการขายออนไลน์ในโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้เป็นอย่างดี เช่น ฟีเจอร์การจัดการแชทที่รวมแชทจากทุกช่องทาง (Facebook, Instagram, LINE OA, Shopee, Lazada และ TikTok Shop) เพื่อให้ร้านตอบแชทลูกค้าและปิดการขายได้อย่างรวดเร็วทันใจ ฟีเจอร์การจัดการออเดอร์ที่สร้างคำสั่งซื้อผ่านแชทและส่งรายการสินค้าให้ลูกค้าได้ทันที ทั้งยังมีระบบการจัดการเวิร์กโฟลว์ (Workflow) และการจัดการทีมในแพลตฟอร์มเดียว และสามารถใช้งานได้ทั้งในเว็บและแอพอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ราคา Zaapi เริ่มต้นเพียง 450 บาท / ต่อเดือน และสามารถเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้งานได้ถึง 2 บัญชี และหากมีผู้ใช้งานที่ต้องการเพิ่มเติมเหนือจากนี้ ก็จะมีค่าบริการเพิ่มเติม
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
3. Zoho CRM
อีกหนึ่งโปรแกรม CRM ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพก็คือ Zoho CRM เหมาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโต สามารถช่วยระบุกลุ่มคนที่แสดงความสนใจสินค้าและมีแนวโน้มว่าจะมาเป็นลูกค้าของร้าน มีฟีเจอร์การจัดการการติดต่อลูกค้า ควบคุมการขาย รวมไปถึงมีทีมลูกค้าสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีการผสานปัญญาประดิษฐ์หรือ (AI: Artificial Intelligent) เพื่อจับตามองและคาดการณ์เทรนด์การขาย อีกทั้งช่วยดูผลประกอบการของคุณไปพร้อม ๆ กัน
Zoho CRM พัฒนามาเพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ นอกจากจะมีฟีเจอร์น่าสนใจแล้วยังมีข้อมูลสำคัญสำหรับธุรกิจ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกค้าซื้อสินค้าจากทางร้าน เรียกว่าครอบคลุม Customer Journey ทั้งหมด ทั้งนี้ยังสามารถปรับแต่งระบบการทำงานและปรับใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยราคา Zoho CRM เริ่มต้นที่เดือนละ $14 ต่อเดือน หรือราว ๆ 500 บาทต่อเดือนต่อหนึ่งผู้ใช้งาน
4. HubSpot CRM
HubSpot CRM เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน โดยตัวโปรแกรม CRM ของ HubSpot มีแดชบอร์ด (Dashboard) ข้อมูลภาพรวมของกระบวนการขาย เพื่อให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสารถติดตามกิจกรรมการขายที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และ HubSpot CRM ยังสามารถติดตามปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างอัตโนมัติ ทั้งทางอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการโทร
ถ้าจะพูดแบบรวมๆ ระบบ CRM ของ HubSpot ก็ถือว่าครอบคลุมและออกแบบมาเพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซเช่นกัน ทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ถ้าดูในเรื่องของราคาก็ถือว่ามีราคาค่อนข้างสูง แม้จะมีให้ใช้งานฟรี แต่ถ้าอยากอัพเกรด ราคาระบบ CRM ของ HubSpot ก็เริ่มต้นที่ $200 ต่อเดือน หรือราว ๆ 7,200 บาท และจำกัดจำนวนรายชื่อผู้ติดต่อที่ 100 คอนแท็คเท่านั้น หากเกินกว่านี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ $100 หรือราว ๆ 3,600 บาทต่อ 1,000 คอนแท็ค
5. Freshsales
Freshsales เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ในเครือ Freshworks ถือเป็นระบบ CRM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อติดตามลูกค้า โดยมีฟีเจอร์การโทร, อีเมล, การให้คะแนนลูกค้า (Lead Scoring) รวมไปถึงการติดตามพฤติกรรมของลูกค้าและการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าอีกด้วย
หากต้องการเข้าถึงข้อมูล Freshsales ก็มีแดชบอร์ด CRM และแดชบอร์ดการขาย ให้ประกอบการตัดสินใจเชิงธุรกิจได้อย่างแม่ยำยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ระบบ CRM ของ Freshsales ยังมีทีมลูกค้าสัมพันธ์คอยดูแลเมื่อมีปัญหา สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี และหากต้องการอัพเกรด ค่าใช้จ่ายของ Freshsales ก็เริ่มต้นที่เดือนละ $14 ต่อเดือน หรือราว ๆ 500 บาทต่อเดือนต่อหนึ่งผู้ใช้งาน
6. ActiveCampaign
ActiveCampaign เป็นตัวเลือกระบบ CRM ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำการตลาดทางอีเมล (Email Marketing) เป็นเครื่องมือ CRM อัตโนมัติที่มีเทมเพลตอีเมลให้เลือกใช้งานหลากหลาย สามารถแบ่งกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อเพื่อส่งเนื้อหาหรือคอนเทนต์ รวมทั้งข้อเสนอให้ตรงใจกับกลุ่มคนที่สนใจสินค้าหรือกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น หากร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซต้องการเน้นการทำการตลาดผ่านอีเมล บอกเลยว่า ActiveCampaign ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
นอกจาก Active Campaign จะสามารถส่งตรงคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการขายแล้ว ยังสามารถใช้ส่งต่อคอนเทนต์มัดใจลูกค้าเพื่อสร้างฐานลูกค้าขาประจำและเก็บรักษาลูกค้าเหล่านั้นไว้ด้วย ทั้งนี้ ActiveCampaign ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและทำการตลาดได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น เครื่องมือการทำการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automaiton) และเครื่องมือส่งข้อความ (Messaging) ผ่านอีเมล, SMS, ฯลฯ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์คือยอดขายได้มากขึ้น ทั้งนี้แพ็คเกจราคา CRM กับ Sale Engagement ของ ActiveCampaign เริ่มต้นที่ $19 ต่อเดือนหรือราว ๆ 700 บาท
7. Pipedrive
Pipedrive เป็นระบบ CRM ที่มีประสิทธิภาพ เน้นในเรื่องของการจัดการกระบวนการขาย ช่วยให้เจ้าของธุรกิจออนไลน์จัดตารางกำหนดส่งอีเมล โทรศัพท์ และมอบหมายงานง่าย ๆ ทำให้ร้านสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ในระยะยาวในง่ายยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ Pipedrive มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่เรียบง่ายและสามารถปรับใช้งานให้เข้ากับธุรกิจได้ ถือว่าเหมาะมากสำหรับร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เพราะ Pipedrive สามารถช่วยผสานขั้นตอนการทำ CRM รวมถึงขั้นตอนการขายให้เป็นไปในทางเดียวกัน ช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์การตลาดและเทคนิคการขายได้ง่ายขึ้น หากสนใจต้องการใช้งาน Pipedrive ราคาก็เริ่มต้นที่ US$12.50 ต่อเดือนต่อหนึ่งผู้ใช้งาน หรือราว ๆ 450 บาทต่อเดือน ต่อหนึ่งผู้ใช้งาน
ถ้าพร้อมแล้ว มาลุยกันเลย!
รู้จักกับ 7 ระบบ CRM ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจออนไลน์และอีคอมเมิร์ซกันไปแล้ว หวังว่าทุกคนจะมีไอเดียในการเลือกระบบหรือโปรแกรม CRM มาใช้งานกันง่ายขึ้น ซึ่งแน่นอนว่านอกนอกเหนือจากตัวระบบและฟีเจอร์แล้ว อย่าลืมคำนึงถึงความเหมาะสม ความคุ้มค้า และประสิทธิภาพการใช้งานด้วย เพราะระบบ CRM ที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป และหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ก็ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก ๆ คือการตอบแชท การสร้างออเดอร์ที่รวดเร็ว และการมีแอดมินที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Zaapi ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยตอบโจทย์ในข้อนี้ อย่าช้าทดลองใช้งานฟรีเลยตอนนี้!
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน คลิกเลย
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง
· LINE OA: @zaapi
· Facebook Page: Zaapi Thailand
· Tel: 096-927-1729
Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub