อยากเปิดร้านขายอาหารสัตว์หรือร้าน Pet Shop แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ลงทุนเท่าไหร่ หรือว่าต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้างใช่ไหม? ถ้าใช่ คุณมาถูกที่แล้ว เพราะที่นี่เรามีเทคนิคเปิดร้านขายอาหารสัตว์ให้ปังมาแนะนำ เพราะนี่คือธุรกิจกำไรงามที่ใคร ๆ ก็อยากทำ แต่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
ลองใช้ Zaapi ตัวช่วยปิดการขายออนไลน์ พร้อมระบบสมาชิก ระบบรายงานยอดขาย
1. เริ่มจากการมีใจรัก
เคยได้ยินไหมว่าการจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้ต้องมีใจรัก การทำร้าน Pet Shop หรือร้านขายอาหารสัตว์ก็เช่นกัน คุณต้องเริ่มจากการมีใจรัก ยิ่งเป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้วและได้ทำธุรกิจเพ็ทช็อป รับรองว่าคุณจะทำร้านให้ไปรอดได้แน่นอน เพราะการทำธุรกิจด้วยความชอบจะทำให้คุณพร้อมฟันฝ่าอุปสรรคและหาหนทางบริหารร้านให้ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้นั่นเอง
ลองคิดดูว่าคุณเริ่มทำร้านแต่ไม่มีความชอบเลย แค่มีอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ คุณก็อาจจะยอมแพ้ได้ง่าย แล้วความฝันที่คุณอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองและเปิดร้านอาหารสัตว์ก็คงจะไม่สำเร็จ
2. มีแผนธุรกิจร้านขายอาหารสัตว์
แผนธุรกิจร้านขายอาหารสัตว์ (Pet Shop) ถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นในการประกอบกิจการของคุณ ดังนั้นนอกจากจะต้องมีใจรักในสิ่งที่ทำแล้ว คุณจำเป็นต้องเขียนแผนธุรกิจขึ้นมาให้พร้อม จะได้วางแผนธุรกิจ การเงิน การตลาด และเตรียมพร้อมรับมือกับปัจจัยอื่น ๆ ในการเปิดร้านเพ็ทช็อปได้อย่างครอบคลุม โดยในแผนธุรกิจร้านขายอาหารสัตว์จะต้องมีข้อมูลหลัก ๆ 8 อย่างด้วยกัน ได้แก่
- บทนำ สำหรับแนะนำธุรกิจ
- การวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมภายนอก คือ ด้านการแข่งขันของตลาดและคู่แข่ง
- การวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมภายใน ได้แก่ ศักยภาพของธุรกิจ กลยุทธ์ และกลุ่มลูกค้า
- แผนการตลาด
- การบริหารจัดการร้านและพนักงาน
- แผนการดำเนินการร้าน
- แผนการเงิน
- แผนฉุกเฉินและแผนในอนาคต
เมื่อคุณมีข้อมูลเหล่านี้ คุณจะเปิดกิจการร้านขายของสัตว์ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะขอเงินลงทุนหรือรับมือกับปัญหาไหนก็สบายไร้กังวลแค่มีแผนเตรียมพร้อมไว้
3. เตรียมงบลงทุน
สำหรับเงินลงทุนเปิดร้านขายอาหารสัตว์จะต้องใช้งบเริ่มต้นที่ประมาณ 200,000 - 250,000 บาท ซึ่งครอบคลุมค่าสินค้า เงินหมุนเวียนในร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าแรงพนักงาน แต่ถ้าคุณต้องเช่าที่และตกแต่งร้านเพิ่มก็จำเป็นจะต้องมีงบที่มากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม จะใช้เงินลงทุนมากหรือน้อยล้วนขึ้นอยู่กับขนาดร้าน Pet Shop ของคุณและปริมาณสินค้าที่วางขาย ยิ่งเปิดร้านใหญ่ก็ยิ่งต้องใช้เงินทุนเยอะ ถ้าอยากลอง ๆ ดูก่อน แนะนำว่าให้เริ่มจากเปิดร้านเล็ก ๆ แล้วงบลงทุนจะลดลง โดยอาจจะเริ่มต้นที่ 50,000 - 100,000 บาท
4. ขออนุญาตให้ถูกต้อง
อย่าลืมขออนุญาตเปิดร้านให้ถูกต้องก่อนจะเปิดร้านเพ็ทช็อปจำพวกอาหารสุนัขและอาหารแมว หากไม่ทำให้ถูกต้องจะได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นควรดำเนินการให้ถูกต้อง โดยคุณสามารถขออนุญาตเปิดร้านได้กับกรมปศุสัตว์หรือปศุสัตว์จังหวัด อย่างไรก็ตามขณะนี้ข้อบังคับที่ว่านี้บังคับเฉพาะร้านขายอาหารสุนัขและแมวเท่านั้น หากเป็นอาหารหนู อาหารนก อาหารปลา และอื่น ๆ ยังไม่มีข้อบังคับ
5. หาทำเลเปิดร้าน
สำรวจพื้นที่ก่อนเป็นอันดับแรก ดูว่าแถวไหนที่เลี้ยงสัตว์มากเป็นพิเศษ เพราะถ้าคุณไปขายในย่านที่ไม่มีคนเลี้ยงสัตว์เลย โอกาสในการขายของก็จะน้อยหรืออาจจะไม่มีไปเลย แนะนำให้เปิดในที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์มาก ๆ อย่างแหล่งชุมชนหรือหมู่บ้านเพราะจะมีโอกาสในการขายมากกว่าพื้นที่ที่เป็นออฟฟิศ สถานศึกษา หรือโรงงาน หลังจากที่ได้ทำเลแล้วก็ดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้เลย
6. เลือกว่าจะขายสินค้าไหนบ้าง
ถ้าจะให้ดีควรขายสินค้าให้หลากหลายมากกว่าอาหารสัตว์ ควรมีสินค้าไว้บริการลูกค้าอย่างครบครัน ร้านจะได้ขายดี อาจจะเลือกขายสินค้าประเภทปลอกคอ แชมพู หวี ฯลฯ เพิ่มเติม ทั้งนี้ควรระวังในเรื่องของการจัดการสต๊อกสินค้าด้วยเพราะสินค้าอาจหมดอายุและเกิดปัญหาขายไม่ได้
สำหรับสินค้าที่ไม่เน่าเสียหรือไม่มีวันหมดอายุ เช่น ชามอาหาร กระเป๋า ของเล่น และอื่น ๆ ควรเช็คสต๊อกไม่ให้สินค้าขาดเช่นกัน เพราะหากลูกค้าต้องการซื้อแต่ไม่มีสินค้าก็จะเสียโอกาสในการขายไป
7. จัดสินค้าให้น่าซื้อ
สำหรับร้านขายอาหารสัตว์ การจัดสินค้าถือว่าสำคัญมากเพราะลูกค้าจะซื้อมากหรือซื้อน้อยก็ขึ้นอยู่กับวิธีจัดสินค้า โดยหลักการในการจัดสินค้าร้านขายอาหารสัตว์ให้น่าซื้อคือ
- จัดสินค้าเรียงกันให้สวยงามเป็นระเบียบ
- แบ่งตามหมวดหมู่
- มีป้ายกำกับสินค้าและป้ายราคาอย่างชัดเจน
- จัดแสดงสินค้าโปรโมชั่นให้โดดเด่น
- จัดสินค้าใหม่ไว้ใกล้หน้าต่างเพื่อให้น่าสนใจ
นอกจากวิธีเหล่านี้แล้วก็สามารถวางขายสินค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ได้ จะได้ Cross-sell หรือ Upsell สินค้าเพิ่มเติมให้กับลูกค้าที่กำลังจ่ายเงิน รับรองร้านจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน
8. หาแหล่งซื้อสินค้า
ในการหาสินค้ามาขายที่ร้าน คุณจำเป็นต้องเลือกซัพพลายเออร์และแหล่งผลิตสินค้าที่ราคาเป็นกันเอง คุณภาพดี และมีสินค้าหลากหลายตามความต้องการของทางร้าน ให้เลือกแบรนด์ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าและไว้ใจได้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการติดต่อกับทางแบรนด์หรือโรงงานต่าง ๆ ประมาณ 3 วัน หากต้องการสั่งซื้อสินค้าก็ควรคำนวณเวลาในการจัดส่งสินค้าให้ดีจะได้ไม่เกิดความล่าช้าในการจัดส่ง
9. โปรโมทร้าน
เมื่อเปิดร้านเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องลงทุนโปรโมทร้านเพื่อให้ร้านเป็นที่รู้จัก จึงจะมีลูกค้าเข้าร้านและทำยอดขายได้ ซึ่งในการโปรโมทจะต้องอาศัยทีมงานที่ดีและมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำคอนเทนต์โปรโมทร้าน โดยวิธีโปรโมทร้านนั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ได้แก่
- โปรโมทด้วยวิธีปากต่อปาก
- โปรโมทผ่านโบรชัวร์
- ทำป้ายประชาสัมพันธ์
- โปรโมทผ่าน Google My Business
- โปรโมทผ่านเฟสบุ๊คและไอจี
- โปรโมทผ่าน TikTok
- โปรโมทผ่าน YouTube
ในส่วนของคอนเทนต์ที่จะโปรโมทร้านก็ทำได้ทั้งแนวสนุก ๆ ให้ความรู้ หรือจะทำเป็นเกม และจัดโปรโมชั่นก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักและสร้างตัวตนในสายตาลูกค้าได้ แถมยังช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับร้านได้เป็นอย่างดีด้วย โดยในแต่ละช่องทางคุณสามารถขยายผลออกไปและสร้างยอดขายได้ทั้งนั้น ถือว่ามีแต่ได้กับได้
เริ่มขายของง่าย ๆ ผ่าน Social Media ด้วยเทคนิคตามนี้
10. ขายออนไลน์ด้วย
นอกจากจะขายหน้าร้านทั่วไปแล้ว คุณควรมีหน้าร้านออนไลน์ด้วย เพราะสมัยนี้ใคร ๆ ก็ช้อปออนไลน์กันทั้งนั้น ถ้าคุณสามารถขยายช่องทางการขายไปยังโลกออนไลน์ได้แล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มรายได้ให้ร้านได้ไปในตัว และหากอยากเปิดร้านขายอาหารสัตว์ออนไลน์ ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เปิดเว็บไซต์และใช้โปรแกรมรวมแชทฟรีกับ Zaapi ตอนนี้ก็ขายได้ตลอดเวลาแล้ว!
ใช้โปรแกรมรวมแชทฟรี พร้อมระบบสต๊อก และระบบรายงานยอดขาย
แค่ดาวน์โหลดแอพลงมือถือก็เพิ่มสินค้าและเปิดร้านได้ในเวลาไม่กี่วินาที ที่สำคัญ Zaapi ยังมีระบบสต๊อกสินค้าออนไลน์ ระบบรายงานยอดขายแบบเรียลไทม์ ระบบสมาชิก และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่รองรับการขายออนไลน์อีกเพียบ แค่นี้คุณก็ขายออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันได้ง่าย ๆ และมียอดขายแม้ปิดร้านแล้ว
ทดลองใช้ Zaapi ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ถึงเวลาเปิดร้านขายอาหารสัตว์แล้ว!
หากอยากเปิดร้านขายอาหารสัตว์หรือ Pet Shop ให้ปังก็ต้องลองทั้ง 10 เทคนิคนี้ คือเริ่มตั้งแต่การทำธุรกิจด้วยใจรัก มีแผนธุรกิจ การเตรียมงบลงทุน การหาสินค้ามาขาย การขออนุญาตเปิดร้าน รวมถึงการขายออนไลน์เพื่อขยายช่องทางทำยอดขายให้มากขึ้นและมีรายได้เข้าร้านตลอดเวลา
และการจะเริ่มขายอาหารสัตว์ออนไลน์ได้ก็ต้องมีเครื่องมือที่ดีเพื่อให้การขายเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าไม่อยากเสียเงินลองระบบเปิดร้านออนไลน์แบบผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ซ้ำ ๆ แนะนำให้ลองระบบรวมแชทกับ Zaapi เพราะที่นี่มีฟีเจอร์ที่รองรับการขายออนไลน์ ช่วยให้ขายได้อย่างสะดวกสบายและไร้ข้อกังวัลมากยิ่งขึ้น แค่นี้การขายออนไลน์ของคุณก็ง่ายขึ้นหลายเท่าแล้ว
Zaapi ระบบรวมแชทสำหรับธุรกิจและร้านค้าออนไลน์ ครอบคลุมทั้งบนโซเชียลมีเดีย และอีคอมเมิร์ซตั้งแต่ Facebook Page, Instagram, LINE OA, Shopee และ Lazada รวมแชทจากทุกช่องทาง บริหารงานง่าย ครบจบบนแพลตฟอร์มเดียว
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง
- LINE OA: @zaapi
- Facebook Page: Zaapi Thailand
- Tel: 096-927-1729
Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub