ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามา วงการธุรกิจร้านอาหารต่างก็ปรับตัวเข้าสู่หนทางเดลิเวอรี่ แล้วก็ยังมีร้านน้อยใหญ่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อให้ปี 2024 เป็นปีทองของเจ้าของร้านอาหารเช่นคุณ เราจึงรวบรวมสุดยอดกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารมาบอกต่อดังนี้ :-
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
1. บุกเกม Social Media
เราอยู่ในยุคที่ผู้คนทานอาหารผ่านสายตากันเสียแล้ว และ Social Media อย่าง Facebook ไอจี หรือ TikTok ก็เป็นเครื่องมือทางการตลาดชั้นเยี่ยมและมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ เพราะฉะนั้นคุณจึงสามารถใช้ช่องทางเหล่านี้โปรโมทเมนูร้านได้บ่อย ๆ เลย
หมั่นโพสต์รูปและวิดีโออาหารของคุณเป็นประจำ จากนั้นติดแฮชแท็กร้านและแฮชแท็กอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รับรองรานอาหารของคุณจะเป็นที่รู้จักและเรียกลูกค้าเข้าร้านได้มากยิ่งขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม รูปและวิดีโออาหารที่โพสต์บท Social Media ต่าง ๆ จะต้องคมชัดระดับ HD เท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นแล้วเกิดอาการน้ำลายสอทันที และนอกจากจะโพสต์รูปและวิดีโอทั่วไปแล้ว ยังสามารถโพสต์ลงสตอรี่เพื่อโต้ตอบกับกลุ่มผู้ติดตามได้ไปพร้อม ๆ กันด้วย
2. ต้องมีเว็บไซต์
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่จำเป็นมาก ๆ ในปัจจุบันก็คือ การมีเว็บไซต์ร้านอาหารออนไลน์เป็นของตัวเอง เพราะการมีเว็บไซต์ขายอาหารก็เปรียบเสมือนการยกร้านอาหารทั้งร้านมาไว้ในโลกออนไลน์ แถมยังอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ถ้าอยากให้ร้านอาหารเติบโตในโลกออนไลน์ ก็ต้องมีเว็บไซต์ที่พร้อม
คือเว็บไซต์จะต้องเสถียร สามารถอัพโหลดรูปภาพและปรับแต่งแบนเนอร์หรือส่วนต่าง ๆ ได้ง่ายตามต้องการ นอกจากนี้การมีเว็บไซต์จะไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ร้าน ช่วยเรียกลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาที่ร้านออนไลน์และลูกค้าก็อาจจะไปทานในร้านอีกด้วย เว็บไซต์จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดสำหรับร้านอาหารที่ไม่ควรมองข้ามในปี 2022 นี้
3. จัดเกมหรือแคมเปญแข่งขันในกลุ่มลูกค้า
เกมหรือแคมเปญการแข่งขันคือกลยุทธ์ชั้นยอดในการสร้าง Engagement สำหรับ Social Media และทำให้ร้านอาหารเป็นที่รู้จักในวงที่กว้างขึ้น โดยทางร้านสามารถจัดการแข่งขันได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
โดยกลยุทธ์ที่นิยมกันก็คือ การแจกอาหารหรือเครื่องดื่มฟรี โดยทางร้านจะมีกติกาให้แฟนเพจหรือผู้ติดตามแท็กเพื่อนและแชร์โพสต์ จากนั้นร้านก็จะทำการสุ่มและประกาศผลผู้โชคดีเมื่อแคมเปญสิ้นสุดลง
ลองคิดดูว่าถ้าลูกค้าที่ร่วมแข่งขัน ร่วมแชร์ หรือว่าร่วมคอมเมนต์มีผู้ติดตามมาก ๆ แล้ว ร้านคุณจะเป็นที่รู้จักมากแค่ไหน
4. SMS Marketing
SMS Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน SMS ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของลูกค้า โดยข้อความที่ส่งจะเป็นข้อความสั้น ๆ เน้นการสื่อสารที่กระชับ ฉับไว อ่านเข้าใจง่าย และตรงไปตรงมา ที่สำคัญต้องมีลิงก์หรือ Call-to-action
ข้อดีของ SMS Marketing คือมีอัตราการเปิดสูง ราคาถูก และสะดวกรวดเร็ว แถมยังวัดประสิทธิภาพได้ง่าย หลายร้านจึงนิยมกลยุทธ์ SMS Marketing กันมากขึ้น
หากจะพูดถึงเนื้อหาที่ส่งไปใน SMS ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการแจ้งอัพเดตต่าง ๆ หรือไม่ก็โปรโมชั่นร้าน เพราะเนื้อหาประเภทโปรโมชั่นมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้ร้านได้ทันที ทั้งนี้ก่อนส่ง SMS ควรคำนึงถึง 5 คำถามนี้เสมอ
- ส่งให้ใคร
- ส่งอะไร
- ทำไมต้องส่งคอนเทนต์นี้
- ส่งเมื่อไหร่ดี
- ส่งที่ไหนดี
- ลูกค้าหรือผู้รับได้อะไรจากเมสเสจที่ส่งออกไป
5 คำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณคิดคอนเทนต์ได้ดียิ่งขึ้น แล้วก็ช่วยให้ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. Email Marketing
Email Marketing คือการทำการตลาดราคาถูกที่ช่วยดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายร้านอาหารได้ดีเช่นกัน โดยคุณสามารถทำแคมเปญ Email Marketing เพื่อรักษาลูกค้าเก่า แถมยังเรียกลูกค้าใหม่ ๆ ให้มาทานอาหารที่ร้านได้ด้วย
และก็คล้าย ๆ กับ SMS Marketing เพราะคุณสามารถส่งแจ้งเตือนโปรโมชั่นและอัพเดตเมนูใหม่ต่าง ๆ จากทางร้านได้อย่างง่ายดาย ยิ่งถ้าดีไซน์รูปอาหารและเมสเสจเป็นอย่างดีแล้ว ร้านของคุณก็จะโดดเด่นกว่าคู่แข่งและเป็นที่จดจำในหมู่ลูกค้ามากขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่เคยทำ Email Marketing มาก่อน ขอแนะนำว่าให้หาข้อมูลหรือปรึกษาผู้รู้เสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้นอีเมลของคุณอาจจะดูเป็นอีเมลสแปมและส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ร้านอาหารของคุณได้
6. การตลาดผ่านบล็อกเกอร์อาหารและอินฟลูเอนเซอร์
การโปรโมทอาหารที่ดีที่สุดก็คือการโปรโมทผ่านเน็ตเวิร์กของวงการอย่างเช่นบล็อกเกอร์อาหารและอินฟลูเอนเซอร์ โดยคุณสามารถติดต่อหาคนดังเหล่านี้แล้วให้พวกเขาโพสต์โปรโมทร้านอาหารของคุณได้
ในส่วนของค่าตอบแทนก็อาจจะมีให้หรือส่งเป็นอาหารแทนได้ ซึ่งแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับข้อตกลงในการทำงานของทั้งสองฝ่ายด้วย แล้วก็ขึ้นอยู่กับงบของร้านว่ามีสำหรับการตลาดนี้มากน้อยแค่ไหน
ข้อดีก็คือ บล็อกเกอร์อาหารหรืออินฟลูเอนเซอร์บางคนไม่เก็บค่าโพสต์ แต่ทางร้านก็ต้องให้ทานอาหารฟรี เพราะฉะนั้นลองติดต่อไปก็ไม่เสียหาย จริงไหม?
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
7. Loyalty Program
Loyalty Program จะช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ร้านมีรายได้จากลูกค้ากลุ่มเดิมแบบซ้ำ ๆ และเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้ในที่สุด
รางวัลที่มัดใจลูกค้ามีหลายอย่างด้วยกัน เช่น การสะสมแต้มเพื่อรับอาหารหรือเครื่องดื่มฟรี การแจกคูปองส่วนลด และการมอบเครดิตเงินคืน เป็นต้น โดย Loyalty Program ที่ว่านี้จะต้องสะดวกสบายทั้งสำหรับร้านและลูกค้าด้วย ซึ่งสำหรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าปัจจุบันแล้ว Loyalty Program ในรูปแบบดิจิตอลในมือถือน่าจะเหมาะที่สุดแล้ว เพราะลูกค้าพกพาได้ง่าย ไม่ต้องกลัวทำหาย
8. มอบส่วนลดและจัดโปรโมชั่น
ลองมอบส่วนลดและจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่มาทานที่ร้านและลูกค้าออนไลน์ แล้วยอดขายร้านจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่งสถานการณ์ที่ควรจัดโปรก็ได้แก่ เทศกาลสำคัญ ๆ ส่วนลดสำหรับช่วงที่ร้านขายไม่ค่อยดี และจับคู่เมนูอาหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ในการมอบส่วนลดหรือว่าจัดโปรโมชั่น ทางร้านจะต้องกำหนดกติกาและเงื่อนไขอย่างชัดเจน เช่น ระยะเวลาของแคมเปญนานแค่ไหนและลดชั่วโมงไหนบ้าง เพื่อก่อให้เกิดความเร่งด่วนและกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่งซื้ออาหารมากยิ่งขึ้น
9. บริการอาหารเดลิเวอรี่
ลูกค้าปัจจุบันเคยชินกับการสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานที่บ้านกันไปแล้ว เพราะสะดวกสบาย ปลอดภัย และไม่ต้องเสี่ยงกับโควิด-19 อีกอย่างคู่แข่งของคุณต่างก็หันมาส่งอาหารเดลิเวอรี่กันหมดแล้ว คุณจึงจำเป็นต้องบุกเกมเดลิเวอรี่เพื่อเข้าถึงลูกค้าเช่นกัน
ลองลิสต์ร้านอาหารของคุณในแอพเดลิเวอรี่อาหาร แล้วจะมีทั้งลูกค้าเก่าและใหม่มาสั่งไม่ขาดสายแน่นอน อย่างไรก็ตาม
ทางร้านจะต้องรักษามาตรฐานของรสชาติอาหาร ออกแบบแพ็คเกจจิ้งใส่อาหารได้สวยงามและเหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท รวมถึงมีมาตรการเดลิเวอรี่ที่ปลอดภัยด้วย
10. อย่ามองข้ามรีวิวออนไลน์
รีวิวที่ไม่ดีในโลกออนไลน์สามารถทำลายชื่อเสียงร้านได้ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ค้นเจอร้านของคุณออนไลน์และยังไม่เคยทานที่ร้านมาก่อน เพราะแน่นอนว่าถ้าคุณเป็นลูกค้าก็คงไม่อยากทานที่รีวิวไม่ดีจริงไหมล่ะ?
ดังนั้นทางร้านควรสอดส่องดูแลรีวิวในโลกออนไลน์ให้ดี ทั้งออนไลน์ในเว็บไซต์ แอพสั่งอาหาร และ Google My Business ให้ตอบทั้งรีวิวดีและรีวิวที่ไม่ดี โดยเฉพาะรีวิวแง่ลบ อย่ามองข้ามเป็นอันขาด วิธีนี้จะช่วยให้ร้านมีความน่าเชื่อถือและดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
สรุป
และตอนนี้คุณก็ได้กลยุทธ์การตลาด ร้านอาหารสำหรับปี 2022 กันไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาปรับใช้ในร้านและรอดูยอดขายร้าน! เราเชื่อว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะทำให้ปีนี้เป็นปีทองของเจ้าของร้านอาหารเช่นคุณ ยังไงลองดูแล้วมาแชร์กับเราด้วยนะคะว่ากลยุทธ์ไหนได้ผลที่สุดสำหรับคุณ
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง
- LINE OA: @zaapi
- Facebook Page: Zaapi Thailand
- Tel: 096-927-1729
Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub