หัวข้อ

7 เทคนิคการตั้งราคาสินค้าให้ขายดีมีกำไร ปี 2024

หลายร้านอาจตั้งราคาสูงเกินไปจนลูกค้าซื้อไม่ไหว และหลายร้านก็อาจจะตั้งราคาต่ำเกินจนขาดทุนแบบไม่รู้ตัว.. ลองอ่าน 7 เทคนิคการตั้งราคาสินค้านี้ ที่จะช่วยให้คุณขายดีมีกำไรแน่!

เกี่ยวกับธุรกิจ
สาระน่ารู้
ตั้งราคา กำไร

การตั้งราคาสินค้า ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ๆ สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ซึ่งหลายคนก็อาจจะตั้งราคาแบบไม่ได้คำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วนนัก หลายร้านอาจตั้งราคาสูงเกินไปจนลูกค้าไม่สามารถจับต้องได้ และหลายร้านก็อาจจะตั้งราคาต่ำเกินจนขาดทุนแบบไม่รู้ตัว ถ้าคุณไม่อยากเจอปัญหาที่ว่านี้และตั้งราคาสินค้าได้โดนใจลูกค้าละก็ นี่คือ 7 เทคนิคที่จะช่วยให้ขายดีมีกำไรและส่งผลให้ร้านโตได้ในอนาคต มาเริ่มกันเลย!

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

การตั้งราคาสินค้า คืออะไร?

การตั้งราคาสินค้า คือ การตั้งมูลค่าของสินค้าที่ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างด้วยกัน เช่น คุณภาพสินค้า, ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย, ลูกค้าปัจจุบัน ฯลฯ ถือว่าสำคัญมาก ๆ ในการขายของและทำธุรกิจ เพราะอย่างที่พูดถึงไปในข้างต้นว่าราคาสามารถทำได้ทั้งดึงลูกค้าเข้าร้าน ผลักลูกค้าออกไป หรือแม้กระทั่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของร้าน

กลยุทธ์การตั้งราคาสินค้ามีอะไรบ้าง ?

สำหรับกลยุทธ์การตั้งราคาสินค้านั้นถือว่ามีหลายแบบด้วยกัน แต่ถ้าจะพูดถึงกลยุทธ์หลัก ๆ เราสามารถแบ่งได้เป็น 7 ประเภท คือ

  1. การตั้งราคาบวกจากต้นทุน (Cost-plus Pricing)
  2. การตั้งราคาแบบประเมินคุณค่า (Value-based Pricing)
  3. การตั้งราคาเจาะตลาด (Penetration Pricing)
  4. การตั้งราคาอิงคู่แข่ง (Competitive Pricing)
  5. การตั้งราคาสูงในช่วงต้น (Skimming Pricing)
  6. การตั้งราคาแบบยืดหยุ่น (Dynamic Pricing)
  7. การตั้งราคาตามฤดูกาล (Seasonal Pricing)

แน่นอนว่าร้านค้าแต่ละประเภทจะมีกลยุทธ์การตั้งราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับตัวสินค้าและบริการของร้าน แล้วคุณล่ะ มีไอเดียคร่าว ๆ ไว้แล้วหรือยัง? ถ้ายัง ไปดูกันต่อที่หัวข้อถัดไปเลย

สูตรการตั้งราคาสินค้าเบื้องต้น

ก่อนจะตั้งราคาสินค้า คุณจำเป็นรู้ต้นทุนสินค้าเสียก่อน ซึ่งอาจจะเป็นต้นทุนจริงของสินค้าหรือบริการ ต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ต้นทุนค่าแรงงาน ต้นทุนการขนส่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าจะต้องตั้งราคาสินค้าเท่าไหร่ สามารถเริ่มจากสูตรนี้ได้ คือ

ราคาสินค้า = ต้นทุน + กำไรที่ต้องการ

ในส่วนของกำไรที่ต้องการนั้น ส่วนใหญ่จะคิดจากราคาต้นทุนของสินค้าเช่นกันและต้องคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไว้เลยว่าอยากได้เท่าไหร่ โดยสูตรในการคำนวณก็แบ่งเป็น 2 สูตรคือ

  • (ต้นทุนต่อชิ้น + ต้นทุนแฝงต่อชิ้น) * (100% + %กำไร)
  • [ต้นทุนต่อชิ้น * (100% + %กำไร)] + ต้นทุนแฝงต่อชิ้น

แล้วต้นทุนแฝงในที่นี้คืออะไรกัน ?

ต้นทุนแฝง คือ ราคาหรือค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างหรือจับต้องได้ เช่น ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด, เวลา, การสื่อสาร และสินค้าคงคลัง เป็นต้น ซึ่งในการตั้งราคาสินค้า จำเป็นต้องคิดต้นทุนแฝงเข้ามาด้วย เพราะแม้จะดูเล็กน้อย แต่ก็เป็นต้นทุนที่เสียไป ถ้าไม่นำมาคำนวณด้วย ก็อาจจะเสียทั้งเงิน เวลา และขาดทุนได้

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

เทคนิคการตั้งราคาสินค้าให้ถูกใจลูกค้า

ตั้งราคา กำไร
Photo by Nothing Ahead from Pexels

นอกจากกลยุทธ์ทั้ง 7 ข้อ รวมถึงรู้สูตรการตั้งราคาแล้ว คราวนี้มาดูเคล็ดลับการตั้งราคาเพื่อมัดใจลูกค้ากันดีกว่าจะได้ขายของดี ๆ และมีกำไรไปขยายร้านกัน ซึ่งเทคนิคที่เรานำมาฝากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่มีดังนี้ :-

1. ไม่ควรตั้งราคาสินค้าต่ำเกินไป

พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่หลายคนมักจะตั้งราคาถูก ๆ ไว้ก่อนเพราะอยากตีตลาดและขายได้เร็ว แต่ก็ต้องบอกว่ากลยุทธ์ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป เพราะแม้ราคาจะดีสำหรับลูกค้าหรือร้านอาจจะพอมีกำไรเหลืออยู่บ้าง แต่ถ้าพูดถึงในระยะยาวแล้ว ไม่คุ้มแน่นอน

นั่นก็เพราะว่าลูกค้าอาจจะไม่เชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าก็เป็นได้ ที่สำคัญร้านคุณจะไม่มีโอกาสในการลดราคาแบบไม่ต้องเจ็บตัว ลองคิดตามว่าถ้าเปิดตัวในราคาถูกแล้วดันขายไม่ได้ คุณจะต้องลดราคาลงไปอีกเท่าไหร่ถึงจะโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้

ดังนั้นไม่ควรตั้งราคาสินค้าต่ำจนไม่มีช่องว่างไว้ลดราคา ถ้าไม่อยากเข้าเนื้อตัวเอง

2. ตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา

ในการตั้งราคาสินค้าทั่วไปนั้น ผู้ประกอบการเช่นคุณควรเริ่มจากใช้หลักจิตวิทยา ซึ่งก็มีหลายแบบด้วยกัน เช่น

  • ราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 ราคาสินค้าที่ลงท้ายด้วย 9 สะดุดตาลูกค้ากว่าราคาที่ลงท้ายด้วยเลขอื่นเสมอ อย่างถ้าเราเปรียบเทียบสินค้าราคา 60 กับอีกอันราคา 59 สินค้าชิ้นที่สองก็จะเข้าตาลูกค้ามากกว่า และลูกค้าก็มักจะซื้อชิ้นที่สองมากกว่า
  • แจกส่วนลดเป็นทอด ๆ แทนที่จะมอบส่วนลด 40% ลองเสนอมอบส่วนลด 20% และมอบเพิ่มอีก 25% รับรองว่าลูกค้าจะตาโตและถูกใจกับส่วนลดที่ร้านมอบให้แน่นอน และคุณก็จะขายของได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเสียใช้จ่ายเพิ่มเติมซ้ำ ๆ แต่อย่างใด
  • โบนัสแพ็ค เสนอส่วนลด 30% จากราคาปกติเพราะถ้าเทียบกับส่วนลด 25% ยังไง 30% ก็ดูเยอะกว่าและกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของที่ร้านมากขึ้นแน่นอน

นอกจากนี้ร้านยังสามารถแสดงส่วนลดเล็ก ๆ น้อย ๆ หน้าร้าน แล้วก็มีส่วนลดที่มากกว่ารอในร้าน รับรองว่าจะทำให้ลูกค้าช้อปมากขึ้นเกิดคาดแน่นอน

3. ใช้กลยุทธ์บริจาค

แทนที่จะมอบส่วนลดเยอะ ๆ อย่าง 30%, 40% หรือ 50% ลองใช้กลยุทธ์ตั้งราคาและมอบรายได้ให้กับการกุศล คือต้องบอกให้ลูกค้ารู้เลยว่าถ้าสินค้าชิ้นที่อยู่ในแคมเปญหรือโปรโมชั่น ทางร้านจะมอบรายได้ให้กับการกุศลมากเท่าไหร่ ถือเป็นการมอบส่วนลดที่ส่งเสริมให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม

ข้อดีก็คือ ร้านที่ใช้กลยุทธ์ตั้งราคามียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 55% แถมลูกค้ารู้สึกดีที่ได้สนับสนุนโครงการดี ๆ จากทางร้านด้วย ดังนั้นลองหาสินค้าพิเศษมาดู แล้วก็ตั้งราคาดี ๆ หน่อย เชื่อเลยว่ายอดขายพุ่งแน่ ๆ   

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

4. ตั้งราคาจากลูกค้า

ฟังดูอาจจะยาก แต่การตั้งราคาสินค้าจากลูกค้าจะช่วยให้คุณคิดราคาสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่มีข้อแม้คือต้องศึกษาตลาดและทำวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ดี เพื่อจะได้มีข้อมูลสำคัญ เช่น อายุ รายได้ หรืออาชีพ คุณจะได้เลือกสินค้าและตั้งราคาได้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า เท่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาสินค้าราคาถูกหรือแพงเกินไปแล้ว

5. ตั้งราคาเหมารวม

เหมาะเป็นอย่างมากในการจัดโปรโมชั่นสินค้าในปริมาณมาก ๆ ซึ่งราคาจะต้องถูกกว่าด้วย หลักการตั้งราคาแบบนี้จะเหมาะกับสินค้าที่เหมือน ๆ กัน เช่น ขายส่ง, คอร์สเรียน, คอร์สทรีทเมนท์ ฯลฯ วิธีนี้เป็นที่นิยมและได้ผลมาก เนื่องจากลูกค้าจะรู้สึกว่าได้ของในปริมาณมาก แต่จ่ายในราคาที่ลงถูกลงมากเช่นกัน 

หากอยากเริ่มทำในร้านก็สามารถจัดโปรตั้งราคาสินค้าบางรายการดูก่อน เช่น ถ้าขายดินสอเขียนคิ้วแท่งละ 50 บาท ก็ลองจัดเซ็ต 3 แท่ง 120 บาทดูได้ แล้วลูกค้าจะหาเพื่อนซื้อหรือซื้อตุนไว้แน่นอน นั่นก็เพราะว่าราคานี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มยังไงล่ะ

6. ตั้งราคาสินค้ากับค่าส่งให้เป็น

สินค้าออนไลน์ที่จัดส่งฟรีมักจะได้ยอดคลิกจากลูกค้า แต่จริง ๆ แล้วถ้าอยากให้ได้ผลในเรื่องของยอดขายจะต้องมีการตั้งราคาสินค้ากับค่าส่งแยกกัน โดยเฉพาะเวลาในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเช่น Lazada หรือ Shopee เพราะลูกค้ามักจะเปรียบเทียบราคาร้านคุณกับร้านอื่น ๆ เสมอ แม้จะมีป้ายส่งฟรี แต่ถ้าเทียบกับร้านอื่นแล้วราคาแพงกว่า ลูกค้าก็จะซื้อร้านที่ถูกกว่าอยู่ดี

ในทางตรงกันข้าม หากโปรโมทร้านค้าออนไลน์หรือมีเว็บขายเป็นของตัวเอง สามารถตั้งราคาสินค้าเหมารวมกับค่าส่งได้ คือบวกค่าส่งเข้าไปกับสินค้า แล้วก็คิดค่าจัดส่งฟรี เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับสินค้าที่ซื้อไป

7. ตั้งราคาแบบ 3 ตัวเลือก

ลูกค้าหลายคนมักจะแพ้กลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าแบบ 3 ตัวเลือก เพราะมักจะคิดว่าถ้าจ่ายเพิ่มอีกหน่อยก็ได้ของดีกว่าหรือสินค้าขนาดใหญ่กว่าแล้ว ดังนั้นหากคุณมีสินค้าประเภทเดียวกันหลาย ๆ ขนาด ขอแนะนำเลยว่าให้ใช้กลยุทธ์นี้ 

ตัวอย่าง: ขายแก้วกาแฟ 3 ขนาด อย่าง S, M และ L

  • ไซส์ S ราคา 59 บาท
  • ไซส์ M ราคา 79 บาท
  • ไซส์ L ราคา 99 บาท

ถ้าลองดูดี ๆ แล้ว เพิ่มเงินอีกแค่ 20 บาท ก็จะได้แก้วกาแฟที่ถูกใจในขนาดที่ใหญ่กว่า แล้วแบบนี้ลูกค้าจะซื้อไซส์ไหนล่ะ ต้องไซส์ L แน่นอน จริงไหม?

การตั้งราคาแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ ?

รู้เทคนิคการตั้งราคาสินค้ากันไปแล้ว คราวนี้ถึงตาคุณแล้วที่จะทดลองและดูว่าแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณมากที่สุด โดยในการตั้งราคาสินค้าแบบปกตินั้น คุณจะต้องรู้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างถี่ถ้วน แล้วก็ตั้งเป้าไว้เลยว่าอยากได้กำไรต่อชิ้นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นการตั้งราคาสินค้าโปรโมชั่นก็สามารถใช้หลักการเดียวกันได้ แต่ก็อาจจะมีลูกเล่นอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ลูกค้าตื่นเต้นกับราคาและเห็นถึงความคุ้มค่ามากที่สุด

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง

  • LINE OA: @zaapi
  • Facebook Page: Zaapi Thailand
  • Tel: 096-927-1729

Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub

บทความล่าสุดจาก Zaapi

ดูบทความเพิ่มเติมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Zaapi

ทั้งหมด
All
Dashboard คืออะไร
สาระน่ารู้

Dashboard คืออะไร มีประโยชน์ต่อการขายของออนไลน์และอีคอมเมิร์ซอย่างไร?

รู้จักกับ Dashboard เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การขายออนไลน์และธุรกิจอีคอมเมิร์ซวิเคราะห์ข้อมูลและดูภาพรวมธุรกิจได้ง่ายขึ้น พร้อมช่วยเพิ่มโอกาสตัดสินใจได้ดีขึ้น

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Dec 18, 2024
ทั้งหมด
All
Marketing Automation
สาระน่ารู้

Marketing Automation เพิ่มยอดขายออนไลน์ด้วยการตลาดอัตโนมัติ

Marketing Automation หรือการตลาดอัตโนมัติ ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรสำหรับธุรกิจออนไลน์ในยุคดิจิทัล มาดูกันว่ามีอะไรบ้างและต้องทำยังไงถึงจะเพิ่มยอดขายได้จริง

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Nov 26, 2024
ทั้งหมด
All
AI คืออะไร
สาระน่ารู้

AI คืออะไร ใช้งานกับธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?

AI เทคโนโลยีสุดล้ำสำหรับธุรกิจออนไลน์ในยุคดิจิทัล ทำความรู้จักกับเครื่องมือชั้นสูงนี้พร้อมล้วงลึกเคล็ดลับการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์ของคุณมากที่สุดได้ที่นี่!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Nov 13, 2024
ทั้งหมด
All
ระบบขายของออนไลน์
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ

ระบบขายของออนไลน์ คืออะไร? คู่มือเลือกตัวช่วยสำคัญของธุรกิจยุคดิจิทัล

ระบบขายของออนไลน์คืออะไร ส่งผลดีต่อธุรกิจคุณอย่างไร ค้นพบคำตอบพร้อมล้วงลึกคู่มือเลือกตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ของคุณในยุคดิจิทัลนี้!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Nov 5, 2024
ทั้งหมด
All
แชทกับ ai เลย!
สาระน่ารู้

แชทกับ AI เลย! เทคนิคการใช้ปัญญาประดิษฐ์สื่อสารเพื่อยอดขายที่ปังขึ้น

รู้จักแชทกับ AI หรือ แขทบอท AI ตัวช่วยอัจฉริยะแห่งยุคที่มีบทบาทสำคัญต่อร้านค้าออนไลน์ ช่วยเสริมพลังการสื่อสารกับลูกค้า และเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 29, 2024
ทั้งหมด
All
Email Marketing คือ
สาระน่ารู้

Email Marketing คืออะไร จำเป็นกับการขายของออนไลน์อย่างไร?

Email Marketing คืออะไร ทำไมร้านค้าและธุรกิจออนไลน์ต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดนี้ ทำความรู้จักและล้วงลับเคล็ดลับการตลาดผ่านอีเมลแบบปังๆ ได้เลยที่นี่!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 22, 2024
ทั้งหมด
All
Affiliate Marketing คือ
สาระน่ารู้

Affiliate Marketing คืออะไร ทำไมแบรนด์และร้านค้าออนไลน์ต้องให้ความสำคัญ

เรียนรู้เกี่ยวกับ Affiliate Marketing กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูว่าทำไมแบรนด์และร้านค้าออนไลน์จึงควรให้ความสำคัญกับการตลาดรูปแบบนี้

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 11, 2024
ทั้งหมด
All
LINE VOOM คืออะไร
สาระน่ารู้

LINE VOOM คืออะไร ธุรกิจออนไลน์หรือแบรนด์ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?

LINE VOOM ฟีเจอร์ที่ให้ทั้งความสนุกและประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน รวมทั้งเจ้าของธุรกิจออนไลน์และแบรนด์ต่างๆ แล้วฟีเจอร์นี้คืออะไร ใช้งานยังไงให้มีประสิทธิภาพ ห้ามพลาด!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 1, 2024
ทั้งหมด
All
ใบเสร็จรับเงิน
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ

ใบเสร็จรับเงิน คืออะไร มีความสำคัญยังไง อยากทำธุรกิจห้ามพลาด

อยากทำธุรกิจฟังทางนี้! หากคุณอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วใบเสร็จรับเงินคืออะไร มีความสำคัญยังไง มีกี่ประเภท มีส่วนประกอบอะไรบ้าง หรือสามารถทำใบเสร็จรับเงินออนไลน์ได้ยังไง อ่านเลย!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Sep 25, 2024
ทั้งหมด
All
ระบบหลังบ้าน
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ

8 อันดับระบบหลังบ้านแห่งปี 2024 ที่เข้าใจคนไทยมากที่สุด

ระบบหลังบ้านเป็นหัวใจสำคัญของร้านค้าออนไลน์ เพราะช่วยบริหารจัดการตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อ ตอบแชทลูกค้า ไปจนถึงการจัดการสต็อกและเก็บข้อมูลลูกค้า เพิ่มโอกาสปิดการขายได้ไวขึ้น ให้เจ้าของธุรกิจออนไลน์สามารถติดตามการทำงานได้ทุกที่

Premika Mitprasertporn
Premika Mitprasertporn
Sep 20, 2024

ทดลองใช้ฟรี 7 วัน ครบทุกฟังก์ชัน

ให้เราช่วยธุรกิจของคุณบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

เริ่มต้นใช้งานเลย
641dc9b830ad...ent-bg1