หัวข้อ

ขายของออนไลน์ ต้องเสียภาษีไหม? แม่ค้ามือใหม่ห้ามพลาด

จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งที ไม่รู้เรื่องภาษีไม่ได้! ต้องยื่นภาษีหรือไม่ ยื่นยังไง หรือว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง บอกเลยว่างานนี้ยิ่งเข้าใจเรื่องภาษีเร็ว ยิ่งส่งผลดีต่อการขายของออนไลน์ของคุณ!

อื่น ๆ
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ
ภาษี ขายของออนไลน์

จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งที ไม่รู้เรื่องภาษีไม่ได้! หลายคนมักจะเข้าใจผิด ๆ ว่าขายของออนไลน์ไม่ต้องเสียภาษี และหลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าต้องยื่นภาษีหรือไม่ หรือว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง วันนี้เราเลยมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องการเสียภาษีสำหรับการขายของออนไลน์มาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย!

บอกเลยว่างานนี้ยิ่งเข้าใจเรื่องภาษีเร็ว ยิ่งส่งผลดีต่อการขายของออนไลน์ของคุณ!


ทำไมขายของออนไลน์ต้องเสียภาษี?

ต้องยอมรับว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมามีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก หลายคนทำเป็นอาชีพเสริม แต่หลายคนก็หันมาเอาดีด้านนี้จนขายของออนไลน์เป็นอาชีพหลัก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ขายของออนไลน์ ต้องเสียภาษีด้วย?

นั่นเพราะว่า “เงิน” หรือ “รายได้” จากการขายของออนไลน์ถือเป็น “เงินได้ประเภทที่ 8” ที่ต้องมีการ “ยื่นภาษี” และ “เสียภาษี” ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด เนื่องจากเป็นเงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ (หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 7) 

ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีเงินได้ประเภทที่ 8 จะต้องเสียภาษีตามมาตรา 40 (8) โดยบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้จดทะเบียนการค้าเป็นนิติบุคคลจะต้องยื่นภาษีเพื่อแสดงรายได้และรายจ่ายแก่สรรพากร จากนั้นจะรู้ว่าต้องเสียภาษีหรือจะได้รับการยกเว้นภาษี

เกณฑ์การเสียภาษีสำหรับการขายของออนไลน์

สำหรับเกณฑ์การเสียภาษีของการขายออนไลน์นั้น เราจะคำนวณเป็น 2 แบบ ได้แก่

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่ไม่ได้จดเป็นบริษัท
  2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ต้องมีหน้าที่ยื่นภาษีและเสียภาษีด้วยกันทั้งนั้น

รายได้จากการขายของออนไลน์เท่าไหร่ ต้องยื่นภาษี (กรณีบุคคลธรรมดา)

หลายคนอาจจะยังเก้ ๆ กัง ๆ และไม่รู้วิธียื่นภาษีที่ถูกต้อง ซึ่งหากเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไปที่ไม่ได้จดเป็นบริษัทมีเกณฑ์ดังนี้ :-

  • บุคคลธรรดา หมายถึงคนมีรายได้ทั่วไป ต้องยื่นภาษีเมื่อมีรายได้มากกว่า 10,000 บาทต่อเดือน หรือ 120,000 บาทต่อปี
  • กรณีโสด เมื่อขายของออนไลน์ต้องยื่นภาษีเงินได้ประเภทที่ 8 หรือมาตรา 40 (8) ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90, 94 เมื่อมีได้รายเกิน 60,000 บาท
  • กรณีสมรส มื่อขายของออนไลน์ต้องยื่นภาษีเงินได้ประเภทที่ 8 หรือมาตรา 40 (8) ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90, 94 เมื่อมีได้รายเกิน 120,000 บาท

รายได้จากการขายของออนไลน์เท่าไหร่ ต้องยื่นภาษี (กรณีนิติบุคคล)

สำหรับนิติบุคคลที่จดเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่ขายออนไลน์ ก็ถือว่าเป็นบุคคลธรรมดา ส่วนเกณฑ์ในการยื่นและเสียภาษี แต่จะต้องเสียภาษีหรือได้รับการยกเว้นภาษีนั้นขึ้นอยู่กับ เงินได้สุทธิ หรือ กำไรสุทธิ หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนออกไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วยิ่งมีกำไรสุทธิมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเสียภาษีมากเท่านั้น โดยปกติแล้วจะมีอัตราการเสียภาษีดังนี้ :-

  • 1 - 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
  • 150,001 - 300,000 บาท จ่ายภาษี 5%
  • 300,001 - 500,000 บาท จ่ายภาษี 10%
  • 500,001 - 750,000 บาท จ่ายภาษี 15%
  • 750,001 - 1,000,000 บาท จ่ายภาษี 20%
  • 1,000,001 - 2,000,000 บาท จ่ายภาษี 25%
  • 2,000,001 - 5,000,000 บาท จ่ายภาษี 30%
  • 5,000,001 บาทขึ้นไป จ่ายภาษี 35%

ทั้งนี้หากสงสัยว่ามีการคำนวณภาษีเงินได้สุทธิยังไงบ้าง ลองทำตามสูตรด้านล่างนี้ได้เลย

(เงินได้ทั้งปี - ค่าใช้จ่าย) - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

แต่ถ้าอยากรู้ว่าต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ ต้องคำนวณตามสูตรนี้

(รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

นอกจากสูตรคำนวณที่ว่านี้แล้ว ยังมีโปรแกรมคำนวณภาษี ฟรี ที่ช่วยให้ชีวิตพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เช่นคุณง่ายขึ้นหลายเท่าตัว ยังไงลองดูแต่ละโปรแกรมแล้วเลือกใช้ตามความเหมาะสมของธุรกิจคุณได้เลย

การหักค่าใช้จ่ายสำหรับยื่นภาษีมีกี่แบบ

ภาษี ขายของออนไลน์
Photo by olia danilevich from Pexels

สำหรับการยื่นภาษีการขายของออนไลน์นั้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายในการเสียภาษี 2 แบบคือ 

  1. หักค่าใช้จ่ายตามจริง

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีต้นทุนในการขายสินค้าสูงเหมาะกับการหักค่าใช้จ่ายตามจริงมากที่สุด เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่มีต้นทุนสูงจะหักค่าใช้จ่ายได้สูงตามไปด้วย เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว เงินที่นำมาคำนวณภาษีก็จะลดลงไปด้วย แต่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องมีบัญชีรายรับ-รายจ่ายและหลักฐานต่าง ๆ อย่างครบถ้วนเพื่อให้ง่ายต่อการทำงานและการตรวจสอบต่าง ๆ 

  1. หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% 

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีกำไรมากเหมาะกับวิธีหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% มากเป็นที่สุด ซึ่งตามจริงแล้วกำไรที่ทำได้อาจจะมากกว่าเงินที่ต้องจ่ายภาษีก็เป็นได้ ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ต้องแสดงหลักฐานใด ๆ ซึ่งทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เช่นคุณได้ประโยชน์ในส่วนต่างของต้นทุนกับค่าใช้จ่ายจริงนั่นเอง


สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

มีค่าใช้จ่ายไหนสามารถนำมาลดหย่อนภาษีขายของออนไลน์ได้บ้าง

เราสามารถแบ่งกลุ่มค่าลดหย่อนภาษีสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เป็น 5 กลุ่มหลัก ๆ คือ

  1. กลุ่มค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว, คู่สมรส, ลูก, พ่อแม่, ผู้พิการ และค่าฝากครรภ์และทำคลอด
  2. กลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน เช่น ประกันสังคม, เบี้ยประกันชีวิต, เบี้ยประกันสุขภาพ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
  3. กลุ่มลดหย่อนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น ดอกเบี้ยบ้าน
  4. กลุ่มเงินบริจาค เช่น บริจาคทั่วไป, บริจาคเพื่อการศึกษา, บริจาคเพื่อโรงพยาบาลรัฐ ฯลฯ
  5. กลุ่มค่าลดหย่อนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน

ปกติแล้วขายของออนไลน์ ต้องยื่นจ่ายภาษีเมื่อไหร่

โดยปกติแล้ว พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องยื่นภาษีและจ่ายตามรอบที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งจะยื่น 2 รอบตาม ภ.ง.ด. 94 และ ภ.ง.ด. 90 คือ

รอบที่ 1 ยื่นภาษีครึ่งปี 

เป็นการยื่นภาษีเงินได้ตั้งแต่วันที่  1 ม.ค. – 30 มิ.ย. มาแสดงและยื่นภาษีตามแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 94 โดยจะต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 ก.ค. - 30 ก.ย. ของปีเดียวกัน และข้อดีของการยื่นภาษีครึ่งปีก็คือ ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และผู้มีรายได้ให้ไม่ต้องจ่ายภาษีหนักในครั้งเดียว ถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

รอบที่ 1 ยื่นภาษีปลายปี

การยื่นภาษีปลายปี เป็นการยื่นภาษีของเงินได้ทั้งปีตามแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 โดยจะทำกันภายในวันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. ของปีถัดไป ข้อเสียคือต้องเสียภาษีหนักในครั้งเดียว แต่ข้อดีก็คือสามารถนำเงินได้บางส่วนไปหมุนเวียนร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจก่อนได้

ข้อควรรู้: หากคุณมีรายได้จากการขายของออนไลน์เกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และยื่น VAT ภายในทุก ๆ วันที่ 15 ของเดือนถัดไป แล้วก็ต้องออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการด้วย แต่ถ้ามีรายได้จากการขายของออนไลน์น้อยกว่า 1.8 ล้านบาท ก็ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่ต้องยื่นภาษี VAT

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเตรียมตัวยังไงให้ก้าวทันภาษีแต่ละปี

หากต้องการเตรียมตัวเสียภาษีขายของออนไลน์อย่างถูกต้อง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไรอย่างราบรื่น นี่คือเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวยื่นและจ่ายภาษีได้ง่ายขึ้น

  1. บันทึกข้อมูลลูกค้า การใช้จ่าย การลงทุน และการรับเงิน
  2. จดและรวมหลักฐานทุกอย่าง รวมถึงทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ
  3. ห้ามทิ้งหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการขายของออนไลน์หรือธุรกิจการค้าของคุณ กรณีที่กรมสรรพากรต้องการใบเสร็จหรือหลักฐานต่าง ๆ จะได้ไม่ยุ่งยากและสามารถแสดงหลักฐานได้เลย ดังนั้นควรเก็บไว้ให้หมดทั้งการโอนจ่าย-รับเงิน การลงทุน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  4. หมั่นหาความรู้เรื่องภาษีเพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้และไม่สับสนเวลาที่จะต้องยื่นจ่ายภาษีในแต่ละปี โดยอาจจะสอบถามผู้รู้หรือติดตามเพจเฟสบุ๊คที่สอนเรื่องภาษีก็ได้
  5. อัพเดตข่าวสารเป็นประจำ โดยเฉพาะข่าวสารการเงินและภาษี เพราะในแต่ละปีอาจจะมีโครงการรัฐบาลหรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เสียเงินไปกับภาษีแบบมากเกินจำเป็น ขอแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคนติดตามข่าวสารเรื่องการเงินและภาษีอยู่เสมอ

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือการขายของออนไลน์และการเสียภาษีที่พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่จำเป็นต้องรู้ไว้ เพื่อจะได้ดำเนินการต่าง ๆ ได้ถูกต้องตามหลักการและป้องกันความเสียหายของธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่าลืมว่าหากจ่ายภาษีไม่ตรงตามกำหนด คุณจะต้องเสียค่าปรับและอาจเสียโอกาสทางธุรกิจได้ เมื่อรู้หลักการยื่นและเสียภาษีต่าง ๆ แล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลานำไปใช้จริง ดังนั้นถ้าคุณเข้าใจเรื่องเสียภาษีและพร้อมขายออนไลน์แล้ว

ใครสนใจอยากเปิดแฟรนไชส์ เรามีแฟรนไชส์น่าสนใจมาแนะนำเยอะมาก และยังมีธุรกิจที่น่าสนใจ อ่านจบแล้วได้ไอเดียแน่นอน

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง

  • LINE OA: @zaapi
  • Facebook Page: Zaapi Thailand
  • Tel: 096-927-1729

Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub

บทความล่าสุดจาก Zaapi

ดูบทความเพิ่มเติมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Zaapi

ทั้งหมด
All
Dashboard คืออะไร
สาระน่ารู้

Dashboard คืออะไร มีประโยชน์ต่อการขายของออนไลน์และอีคอมเมิร์ซอย่างไร?

รู้จักกับ Dashboard เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การขายออนไลน์และธุรกิจอีคอมเมิร์ซวิเคราะห์ข้อมูลและดูภาพรวมธุรกิจได้ง่ายขึ้น พร้อมช่วยเพิ่มโอกาสตัดสินใจได้ดีขึ้น

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Dec 18, 2024
ทั้งหมด
All
Marketing Automation
สาระน่ารู้

Marketing Automation เพิ่มยอดขายออนไลน์ด้วยการตลาดอัตโนมัติ

Marketing Automation หรือการตลาดอัตโนมัติ ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรสำหรับธุรกิจออนไลน์ในยุคดิจิทัล มาดูกันว่ามีอะไรบ้างและต้องทำยังไงถึงจะเพิ่มยอดขายได้จริง

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Nov 26, 2024
ทั้งหมด
All
AI คืออะไร
สาระน่ารู้

AI คืออะไร ใช้งานกับธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?

AI เทคโนโลยีสุดล้ำสำหรับธุรกิจออนไลน์ในยุคดิจิทัล ทำความรู้จักกับเครื่องมือชั้นสูงนี้พร้อมล้วงลึกเคล็ดลับการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์ของคุณมากที่สุดได้ที่นี่!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Nov 13, 2024
ทั้งหมด
All
ระบบขายของออนไลน์
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ

ระบบขายของออนไลน์ คืออะไร? คู่มือเลือกตัวช่วยสำคัญของธุรกิจยุคดิจิทัล

ระบบขายของออนไลน์คืออะไร ส่งผลดีต่อธุรกิจคุณอย่างไร ค้นพบคำตอบพร้อมล้วงลึกคู่มือเลือกตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ของคุณในยุคดิจิทัลนี้!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Nov 5, 2024
ทั้งหมด
All
แชทกับ ai เลย!
สาระน่ารู้

แชทกับ AI เลย! เทคนิคการใช้ปัญญาประดิษฐ์สื่อสารเพื่อยอดขายที่ปังขึ้น

รู้จักแชทกับ AI หรือ แขทบอท AI ตัวช่วยอัจฉริยะแห่งยุคที่มีบทบาทสำคัญต่อร้านค้าออนไลน์ ช่วยเสริมพลังการสื่อสารกับลูกค้า และเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 29, 2024
ทั้งหมด
All
Email Marketing คือ
สาระน่ารู้

Email Marketing คืออะไร จำเป็นกับการขายของออนไลน์อย่างไร?

Email Marketing คืออะไร ทำไมร้านค้าและธุรกิจออนไลน์ต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดนี้ ทำความรู้จักและล้วงลับเคล็ดลับการตลาดผ่านอีเมลแบบปังๆ ได้เลยที่นี่!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 22, 2024
ทั้งหมด
All
Affiliate Marketing คือ
สาระน่ารู้

Affiliate Marketing คืออะไร ทำไมแบรนด์และร้านค้าออนไลน์ต้องให้ความสำคัญ

เรียนรู้เกี่ยวกับ Affiliate Marketing กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูว่าทำไมแบรนด์และร้านค้าออนไลน์จึงควรให้ความสำคัญกับการตลาดรูปแบบนี้

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 11, 2024
ทั้งหมด
All
LINE VOOM คืออะไร
สาระน่ารู้

LINE VOOM คืออะไร ธุรกิจออนไลน์หรือแบรนด์ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?

LINE VOOM ฟีเจอร์ที่ให้ทั้งความสนุกและประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน รวมทั้งเจ้าของธุรกิจออนไลน์และแบรนด์ต่างๆ แล้วฟีเจอร์นี้คืออะไร ใช้งานยังไงให้มีประสิทธิภาพ ห้ามพลาด!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Oct 1, 2024
ทั้งหมด
All
ใบเสร็จรับเงิน
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ

ใบเสร็จรับเงิน คืออะไร มีความสำคัญยังไง อยากทำธุรกิจห้ามพลาด

อยากทำธุรกิจฟังทางนี้! หากคุณอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วใบเสร็จรับเงินคืออะไร มีความสำคัญยังไง มีกี่ประเภท มีส่วนประกอบอะไรบ้าง หรือสามารถทำใบเสร็จรับเงินออนไลน์ได้ยังไง อ่านเลย!

Oum Chawarin
Oum Chawarin
Sep 25, 2024
ทั้งหมด
All
ระบบหลังบ้าน
สาระน่ารู้
เกี่ยวกับธุรกิจ

8 อันดับระบบหลังบ้านแห่งปี 2024 ที่เข้าใจคนไทยมากที่สุด

ระบบหลังบ้านเป็นหัวใจสำคัญของร้านค้าออนไลน์ เพราะช่วยบริหารจัดการตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อ ตอบแชทลูกค้า ไปจนถึงการจัดการสต็อกและเก็บข้อมูลลูกค้า เพิ่มโอกาสปิดการขายได้ไวขึ้น ให้เจ้าของธุรกิจออนไลน์สามารถติดตามการทำงานได้ทุกที่

Premika Mitprasertporn
Premika Mitprasertporn
Sep 20, 2024

ทดลองใช้ฟรี 7 วัน ครบทุกฟังก์ชัน

ให้เราช่วยธุรกิจของคุณบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

เริ่มต้นใช้งานเลย
641dc9b830ad...ent-bg1